ข้อข้องใจ
โดย dhisapramote  2 มิ.ย. 2553
หัวข้อหมายเลข 16370

ความอยากไปในสถานที่ที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ถือเป็นกิเลสหรือ

ไม่ ถ้าใช่ทำไมผู้ที่ๆ มาสู่บ้านธรรมะจัดให้มีการเดินทางไปสู่สถานที่เหล่านั้นด้วยจุด

ประสงค์ใดคะ

ขออภัยถ้าคำถามเป็นการล่วงเกินไปโดยมิได้มีเจตนาร้าย แต่อยากทราบจริงๆ เพราะ

ทุกครั้งที่ไปกัน ข้าพเจ้าก็มีกิเลสอยากไปด้วยด้วยเจตนาว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์

แต่เมื่อนึกถึงว่าถ้ายังไม่มีเหตุและปัจจัยที่จะได้ไป ก็จะไม่ได้ไป และถ้าเราอยากไปก็

เป็นกิเลส เรามาสู่สถานที่แห่งนี้ด้วยความจริงใจที่จะศึกษาเพื่อละ ไม่ใช่เพื่อที่จะได้

อะไร แต่กิเลสทำให้เราติดข้อง ขอรบกวนท่านใดก็ได้ช่วยตอบด้วย

ขอบพระคุณล่วงหน้า



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 3 มิ.ย. 2553
เข้าใจว่าการไปกราบนมัสการสังเวชนียสถานของแต่ละท่านมีจุดประสงค์ต่างกันบางท่านไปกราบด้วยศรัทธาเคารพในพระรัตนตรัย บางท่านมีความเชื่อบางอย่างว่าเมื่อไปไหว้แล้วจะได้อะไร บางท่านไปเพื่อการศึกษาเหมือนกับไปชมโบราณสถานและบางท่านก็มีจุดประสงค์อื่นก็มี ดังนั้นสำหรับพระอริยเจ้าท่านไปกราบไหว้ด้วยความเคารพ ด้วยศรัทธา เหมือนการเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ในสมัยครั้งพุทธกาล ผู้ที่ศึกษาพระธรรมเข้าใจก็ไปด้วยจุดประสงค์นี้ แต่ในระหว่างการเดินทางย่อมมีอกุศลเกิดบ้างเป็นธรรมดา ส่วนผู้ที่ไปด้วยความเชื่อบางอย่าง ถ้าระลึกรู้สภาพจิตของตนเองย่อมทราบว่าเป็นจิตประเภทใด สภาพจิตของผู้อื่นไม่สำคัญเท่ากับจิตของตนครับ

ความคิดเห็น 2    โดย ups  วันที่ 3 มิ.ย. 2553

สาธุ

ไม่เคยไปแต่เมื่อไปส่งผู้ที่ไปกราบสังเวชนียสถาน ตื้นตันใจด้วยที่ไปส่ง

กุศล ก็คือ กุศล

อกุศล ก็คือ อกุศล

พิจารณาไตร่ตรองตามควร


ความคิดเห็น 3    โดย ING  วันที่ 3 มิ.ย. 2553

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย dhisapramote  วันที่ 4 มิ.ย. 2553
ขออนุโมทนาด้วยคนค่ะ

ความคิดเห็น 5    โดย คุณ  วันที่ 5 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย รากไม้  วันที่ 9 มิ.ย. 2553

ตนเองเท่านั้นที่รู้ครับ ว่าขณะนั้นเป็น สภาวธรรมอะไร

ดูลงไปว่า ถ้าเป็นการกระทำหรือเจตนาที่ต้องการผล แสดงว่าขณะนั้นเป็นความติดข้อง เมื่อติดข้องแล้ว หากผลที่ออกมาไม่เป็นไปตามประสงค์ ก็เกิดเป็นทุกข์ ..เช่นหวังในกุึศล หรือหวังในความปิติที่จะมีขึ้นในกาลนั้น ฯลฯ , เมื่อเป็นความอยากแล้ว หากไม่ได้ไปสถานที่นั้นๆ ตามประสงค์จะเดือดร้อนใจ ใจขุ่นมัว ไม่พอใจ คิดไปต่างๆ นาๆ

ถ้าเป็นฉันทะ หรือกระทำไปด้วยความศรัทธา จะเป็นการกระทำที่ไม่มีความหวังในผลใดๆ เกิดขึ้นเลย เป็นอุเบกขาวางเฉยต่อผลที่จะเกิดขึ้นตามมา หากจะเป็นปิติหรือสุขหรือทุกข์ ก็แล้วแต่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ตามธรรม ...ที่จะเป็นอย่างนี้ได้ ก็ต้องมีปัญญาเข้าไปรู้ว่า การกระทำใดๆ ก็ตาม เราไปหวังในผลใดๆ ไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว เพราะทุกอย่างไม่เที่ยง ความหวังเกิดเมื่อไหร่ก็มีทุกข์รออยู่แน่นอนที่สุด

อนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย dhisapramote  วันที่ 25 ส.ค. 2553

ห่างหายไปนาน แต่ตามฟังซีดีอยู่ประจำ ทั้งของท่านอาจารย์สุจินต์และคุณป้าวันทนาที่กรุณามอบซีดีให้มาฟัง ยิ่งฟังยิ่งไม่อยากถามอะไร เพราะคิดอยู่ว่าการพูดดีคือไม่พูด

แต่อย่างไรขออนุโมทนาคามเห็นของทุกท่านค่ะ

วันก่อนมีคนอยากทราบเรื่องตู้บริจาคในวัดที่เขียนไว้ว่า ชำระหนี้สงฆ์ หมายความว่าอย่างไรค่ะ

ขออนุญาตสงสัยค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย prachern.s  วันที่ 25 ส.ค. 2553

เรียนความเห็นที่ ๗

ขอเชิญคลิกอ่านที่ การชำระหนี้สงฆ์คืออะไร