ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใดก็ตาม ทุกๆ ขณะมีสภาพธรรมปรากฎเกิดขึ้นและดับไปอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่อบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริงไม่ว่าขณะทำงาน ขณะขับรถ ขณะไปงานเลี้ยง หรือแม้ขณะทำครัว สติสามารถ
ระลึกรู้ได้ทุกๆ ขณะเมื่อเหตุปัจจัยพร้อมคือมีความเข้าใจในสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ
ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่เป็นเหตุปัจจัยให้สติปัฎฐานเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใดและ
ขณะใดก็ตาม
ขอเชิญอ่านข้อความโดยตรงจากพระไตรปิฎก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้าที่ 8
อรรถกถาอัญญตราเถรีคาถา
อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อเธอหุงหาอาหารอยู่ในครัวใหญ่ เปลวไฟใหญ่ได้ตั้งขึ้น เปลวไฟนั้นทำให้ภาชนะที่สิ้นเกิดเสียงเปรี๊ยะๆ เธอเห็นดังนั้นจึงยึดข้อนั้นแหละเป็นอารมณ์ใคร่ครวญความไม่เที่ยงที่ปรากฏขึ้นอย่างดียิ่ง จากนั้นได้ยกความเป็นอนิจจัง ทุก-ขัง อนัตตาขึ้นในครัวนั้น เจริญวิปัสสนา ขวนขวายโดยลำดับ ได้ดำรงอยู่ในอนาคามิผลตามลำดับแห่งมรรค
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ปรกติในชีวิตประจำวัน อกุศลเกิดบ่อยมาก อกุศลไม่เลือกสถานที่เกิด ไม่เลือก
อิริยาบถเพราะได้สะสมอกุศลมามากจนมีกำลัง อันเป็นปัจจัยให้อกุศลเกิดได้ทุกที่
ทุกเวลาฉันใด การอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้ความจริงของสภาพธรรมก็เช่นกัน สามารถ
รู้ได้ทุกที่ ทุกเวลาเพราะว่าสภาพธรรมที่มีจริง มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวันไม่เปลี่ยนไป
ไหน แต่ขาดเพียงสติและปัญญาที่ไม่รู้ในสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้เท่านั้น ซึ่งการ
ศึกษาการฟังพระธรรมย่อมเป็นปัจจัยให้สติและปัญญาจากที่ไม่เคยมี มีขึ้น เมื่อความ
เข้าใจเจริญขึ้นจนมีกำลังเหมือนอกุศลที่เสพคุ้นจนมีกำลังแล้ว สติและปัญญาก็เกิดขึ้น
ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมได้ทุกที่ ทุกเวลาเพราะสติและปัญญามีกำลัง ที่สำคัญ
สภาพธรรมเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไมได้ แม้สติและปัญญาก็เช่นกัน จึงแล้วแต่ว่าเมื่อ
เหตุปัจจัยพร้อมสติและปัญญาจึงเกิดขึ้นเองและก็สามารถบรรลุธรรมได้ในที่ทุกสถาน
ดังเรื่องราวในพระไตรปิฏก ซึ่งเป็นคนเล่นศิลปะเป็นนักกายกรรม เมื่อพระพุทธเจ้า
แสดงธรรม ขณะที่กำลังเล่นกายกรรม ยืนอยู่บนแป้นที่เล่น ฟังธรรมได้บรรลุเป็นพระ-
อรหันต์ทันทีครับ สติจึงจำปรารถนาในที่ทั้งปวง ขออนุโมทนา เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่.......พระอุคคเสน [เรื่องบุตรเศรษฐีชื่ออุคคเสน] อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ถ้าเป็นดิฉันคงต้องรีบดับไฟก่อนด้วยความตกใจ
เพราะเหตุปัจจัยที่สะสมมา.....ยังไม่พอ.....ที่จะให้สติปัฏฐาน
(และวิปัสสนาญาณ) เกิดได้ไวถึงเพียงนั้นค่ะ
จริงค่ะ......ธรรมมีอยู่ทุกที่.....ทุกเวลา
แต่ปัญญา.....มีรึยัง?
(-_-"
ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้หลายเรื่อง เช่น พระอานนท์ปรารภความเพียรอย่างมากแต่ก็
ไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ ท่านก็คิดจะพักจึงเอนกายลง ขณะที่ศรีษะยังไม่ถึงเตียงเท้ายัง
ไม่พ้นจากพื้นท่านก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ค่ะ อีกตัวอย่างหนึ่ง ท่านพระพาหิยะท่าน
ฟังธรรมระหว่างถนนก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ท่านพระพาหิยะเป็นผู้เลิศด้านบรรลุเร็วค่ะ
พระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ให้นางบรรพชาอุปสมบทแล้ว นำไปวิหารแสดงแก่พระศาสดา
เมื่อจะทำอารมณ์ที่เห็นตามปกตินั่นเองให้แจ่มแจ้งแก่นาง ตรัสพระคาถานี้ว่า
ดูก่อนเถรี เธอจงเอาท่อนผ้าทำจีวรนุ่งห่มแล้วพักผ่อนให้สบายเถิด
เพราะราคะของเธอสงบแล้วเหมือนผักดองแห้งอยู่ในหม้อ.
สาธุ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เพราะธรรมะปรากฎทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เป็นปกติ
เมื่อสติปัฏฐานเกิดตามเหตุปัจจัย จึงรู้ได้เป็นปกติ
ไม่ต้องไปแสวงหา หรีอเลือกอารมณ์ เพราะเป็นอนัตตา
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบตุณและขออนุโมทนาค่ะ