หนังสือเล่มนี้เขียนด้วยศรัทธาและการเห็นประโยชน์ของพระธรรม ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ทางธรรมอย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริงที่ประสบ ตามความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียนโดยไม่ได้ต่อเติมให้เกิดความน่าสนใจหรือตื่นเต้น นับเป็นประสบการณ์ที่เรียบง่าย แต่แสดงถึงการแสวงหาจนกระทั่งได้พบพระธรรม คำตอบความจริงของชีวิตซึ่งเป็นเสมือนแผ่นที่นำทางระยะยาวที่ต้องดำเนินไปในสังสารวัฏฏ์
จารุพรรณ เพ็งศรีทองพฤษภาคม ๒๕๔๙
บ้านธัมมะขออนุโมทนา ในกุศลของ คุณจารุพรรณ เพ็งศรีทอง ที่ได้บำเพ็ญมาจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต ถึงแม้ท่านจะป่วยหนัก แต่ก็มีความอดทนเขียนต้นฉบับของหนังสือเล่มนี้จนเสร็จก่อนที่ท่านจะสิ้นชีวิตไม่นาน
ขอเขิญท่านอ่านหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่มีประโยชน์มากอีกเล่มหนึ่ง
ดาวน์โหลด ประสบการณ์ทางธรรม
โดย จารุพรรณ เพ็งศรีทอง
พี่จารุพรรณ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ มีตำแหน่งเป็นรองศาสตราจารย์ สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง อดีตเป็นกรรมการ และเลขานุการ ของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา แต่ ไม่ให้ใช้ อักษรย่อ " รศ." นำหน้าชื่อของท่าน คงให้ใช้ คำนำหน้าชื่อของท่าน ว่า " น.ส." เท่านั้น เป็นผู้ที่สนใจฟังพระธรรมมานาน ตั้งแต่ก่อนสมัยที่ท่านอาจารย์สุจินต์ยังบรรยายอยู่ที่ห้องประชุมตึกสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศวิหาร บางลำภู ทุกวันอาทิตย์
(ท่านอาจารย์ บรรยายที่วัดบวรฯ ในวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 2519 ถึง 2535)
เป็นผู้ที่ริเริ่มให้มีการตั้งกลุ่มสนทนาธรรมกันในวันเสาร์ที่วิหารรังสี วัดบวรฯ ซึ่งเป็นประโยชน์ ต่อผู้สนใจใคร่ในธรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีข้อสงสัย หรือข้อสนใจเพิ่มเติมจากการฟังธรรมในวันอาทิตย์ที่บรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ ก็สามารถนำมาร่วมสนทนาธรรมกันได้ในวันเสาร์ ที่วิหารรังสี นี้
จึงขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลกรรม ที่พี่จารุพรรณได้กระทำมาจวบจนสิ้นชีวิต ด้วยครับ
ดิฉันก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้จักคุณจารุวรรณ เพ็งศรีทอง มาเป็นเวลานานพอสมควร เพราะบ้านเคยอยู่ติดกันที่เทเวศน์ เคยเล่น scrabble ด้วยกันยามว่างเป็นประ-จำ (ดิฉันจะเป็นผู้แพ้อยู่เสมอ เพราะพี่เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษอยู่ที่ม.รามคำแหง) นอกจากนี้ดิฉันก็เคยอยู่ในกลุ่มสนทนาธรรมวันเสาร์ที่วิหารรังสี วัดบวรฯ อยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งย้ายบ้านมาอยู่ที่สุขุมวิท 71 ต่อมาในภายหลัง ได้ทราบว่าพี่ป่วยเป็นมะเร็งระยะขั้นที่ 3 ซึ่งตอนนั้นพอได้รับทราบ ก็ได้รีบไปเยี่ยมพี่เค้าด้วยความเป็นห่วง ยอมรับว่าหวั่นไหวมาก จนกระทั่งต้องร้องไห้ออกมา เพราะเราเคยสนิทกัน แต่เชื่อไหมคะว่า พี่ไม่เคยบ่น หรือว่าท้อแท้กับโรคที่พี่เค้าเป็นเลย เราสนทนาธรรมกันในหลายๆ หัวข้อ พี่มีความมั่นคงในพระธรรมเป็นอย่างมาก ทุกอย่างเป็นไปตามปรกติ กลายเป็นว่าพี่กลับทำให้ดิฉันสบายใจและสนุกสนานไปกับพี่เค้าด้วย โดยที่ไม่เป็นกังวลกับโรคร้ายนี้ใดๆ เลย พี่เป็นผู้ที่ศึกษาธรรมมาเป็นเวลานาน ดังนั้นความเข้าใจและความมั่นคงในพระธรรมจึงทำให้พี่ไม่หวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้น จวบจนกระทั่งวาระสุดท้ายของภพนี้
ขอกราบอนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลและกุศลกรรมที่สำเร็จแล้วของพี่ในทุกประการค่ะ
ได้อ่านหนังสือประสบการณ์ทางธรรม ที่เขียนโดย รศ.จารุพรรณ เพ็งศรีทอง ได้ประโยชน์มาก
ขออนุโมทนาบุญกุศลที่ท่านได้ทำไว้ ในพระพุทธศาสนา เชื่อว่าเป็นเหตุปัจจัยให้ท่านรู้แจ้งเห็นธรรมตามที่ท่านปราถนาในภพต่อๆ ไป กราบอนุโมทนาด้วยความระลึกคุณความดีของท่าน