วิตักกะทำกิจตรึกตามสิ่งที่เห็น ได้ยิน...เมื่อยังไม่ได้ฟังพระธรรม หลังเห็น ได้ยิน...

ก็เป็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย และส่วนใหญ่ก็ตรึกไปในอกุศล เป็นความติดข้องในสิ่งที่

เห็น ได้ยิน...หรือไม่ก็เป็นความขุ่นเคืองใจ ขณะที่คิดเป็นไปในกุศลก็น้อยมาก ตาม

การสะสมของอกุศลซึ่งมีมากกว่ากุศลมากมาย เมื่อได้ฟังพระธรรม ทุกอย่างฟังเพื่อ

เข้าใจ ชีวิตเหลืออีกเท่าไร อยู่เพื่อเข้าใจธรรมะจริงๆ จนกว่าจะได้ตรึกถึงลักษณะจริงๆ

ของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ แต่ละขณะ ซึ่งเป็นเรื่องของปัญญาทั้งหมดซึ่งต้องอดทน

ฟังให้เข้าใจ และกว่าที่จะค่อยๆ น้อมมาเข้าใจลักษณะสภาพธรรมจริงๆ ซึ่งเป็นสัมมา-

ทิฏฐิ มีความมั่นคงจริงๆ เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏมั่นคงขึ้นๆ ...สักวันหนึ่งเมื่อได้ฟังพระ-

ธรรม ความเข้าใจที่สะสมมาสามารถที่จะตรึกถึงลักษณะจริงๆ ของสิ่งที่กำลังปรากฏ

กำลังเดินทางอยู่หรือเปล่า กำลังเป็นมรรคหรือเปล่า ทุกขณะเดี๋ยวนี้ทุกคนกำลังเดิน

ทาง กำลังเดินทางไปสู่ทางกุศล หรืออกุศล หรือกำลังเดินทางไปสู่การรู้ลักษณะ

สภาพธรรมตามความเป็นจริง คิดหรือตรึกในทางกุศล หรืออกุศล ทุกขณะที่มีการ

คิดประกอบด้วยปัญญาหรือเปล่า คิดก็เป็นอนัตตา แต่เมื่อได้ฟังธรรมความเข้าใจ ผู้

นั้นจะเดินทางผิด หรือถูก คิดดีขึ้นไหม? วิตักกะ คือเท้าของโลก เป็นสัมมาสังกัปปะ

เป็นหนทางไปสู่กุศล หรืออกุศลตามการสะสม และตราบใดที่ยังมีกิเลสก็ต้องกระทำ

กรรม เมื่อกระทำกรรมก็ต้องมีทางไป ไปไหน? กุศลกรรมก็ไปสู่ทางที่ดี ถ้าเป็นอกุศล

กรรมก็ไปสู่ทางที่เป็นทุกข์

ขณะนี้สภาพธรรมกำลังปรากฏ เมื่อมีความเข้าใจ คือปัญญา วิตักกะก็ต้องตรึกตรง

ลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตรึกตามปัญญาที่ได้สะสมมา

...ขออนุโมทนาค่ะ...

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาค่ะ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตา ด้วยครับ

อ่านแล้วสัญญามั่นคงยิ่งขึ้น

ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาคะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะพี่เมตตา