[เล่มที่ 70] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 151
พาลวรรคที่ ๕
ว่าด้วยคนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง
๑๐. คนพาลย่อมสำคัญบาปประดุจน้ำผึ้ง ตราบ เท่าที่บาปยังไม่ให้ผล ก็เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้น คนพาลย่อมประสบทุกข์
๑๑. คนพาล พึงบริโภคโภชนะด้วยปลายหญ้า คาทุกๆ เดือน เขาย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งท่าน ผู้มีธรรมอันนับได้แล้ว
๑๒. ก็กรรมชั่วอันบุคคลทำแล้ว ยังไม่ให้ผล เหมือนน้ำนมที่รีดในขณะนั้น ยังไม่แปรไปฉะนั้น บาปกรรมย่อมตามเผาคนพาล เหมือนไฟอันเถ้า กลบไว้ฉะนั้น
ผู้ที่มียังมีอกุศล ก็ต้องตรงว่ายังเป็นคนพาล และอบรมเจริญปัญญา เพื่อละความเห็นผิดว่า เป็นคนพาลก่อน ทุกอย่างเป็นธรรมะ ความพาลมีจริง ความพาลเป็นธรรมะ แต่คนไม่มีจริงโดยปรมัตถ์ มีเมื่อจิตคิดถึงบัญญัติว่า "คน" เท่านั้นครับ...อนุโมทนาครับ
คนที่เป็นคนพาล ย่อมไม่รู้ธรรมะ ย่อมไม่รู้อรรถ ขออนุโมทนาค่ะ