การกระทำของคนทั่วไป หากไม่เป็นกุศล ก็เป็นอกุศล ขอเรียนถามว่า ขณะที่อิริยาบถใหญ่หรือย่อย เกิดขึ้น ในขณะนั้นเจตนาเป็นกุศลหรืออกุศล หรือไม่ อย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เจตนา เป็นเจตสิกประเภทหนึ่งที่จงใจ ตั้งใจ ขวนขวายกระทำกิจตามประเภทของเจตนาและสัมปยุตตธรรมที่เกิดร่วมกันในขณะนั้นๆ เจตนาเจตสิกเป็นสัพพจิตตสาธารณเจตสิก คือ เป็นเจตสิกที่เกิดกับจิตทุกดวง ทั่วไปกับจิตทุกดวง ไม่ว่าจิตนั้นจะเป็นกุศล หรืออกุศล หรือวิบาก หรือกิริยา จะไม่ปราศจากเจตนาเจตสิกเลย เพราะฉะนั้น โดยชาติของเจตนา ซึ่งอาจจะเคยเข้าใจเพียงในลักษณะที่ว่า เป็นกุศลเจตนา หรือเป็นอกุศลเจตนา แต่ตามความจริงแล้ว เจตนาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง เพราะฉะนั้น ลักษณะสภาพของเจตนาเจตสิก โดยชาติ (ความเกิดขึ้น) จึงมี ทั้ง ๔ ชาติ คือ เจตนาที่เป็นอกุศล ก็มี เจตนาที่เป็นกุศลก็มี เจตนาที่เป็นวิบาก ก็มี เจตนาที่เป็นกิริยาคือ ไม่ใช่กุศล ไม่ใช่อกุศล และไม่ใช่วิบาก ก็มี ขึ้นอยู่กับว่า เจตนาจะเกิดกับจิตประเภทใด ก็มีความเสมอกันกับจิตประเภทนั้น ถูกต้องตามเหตุผล ในเมื่อเจตนาเจตสิกเป็นเจตสิกที่เกิดกับจิตทุกดวง เพราะฉะนั้นเจตนาเจตสิกก็ต้องมีครบทั้ง ๔ ชาติ คือ ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นวิบากก็มี ที่เป็นกิริยาก็มี โดยไม่ปะปนกัน เพราะฉะนั้นเจตนาไม่ใช่มีแต่กุศลเจตนาหรืออกุศลเจตนาเท่านั้น
ดังนั้น ขณะที่เป็นอิริยาบถ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ก็ไม่ปราศจากจิต ไม่ปราศจากเจตสิก ไม่ปราศจากเจตนาเจตสิก ซึ่งการสมมติว่าเป็นอิริยาบถใด ก็สามารถเป็นไปใน จิตที่เป็นกุศล อกุศล วิบาก กริยาก็ได้ เจตสนานั้นจึงเป็นไปใน กุศล อกุศล วิบาก และ กิริยาได้ด้วย ครับ ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าไม่ได้เป็นไปในทาน ไม่ได้เป็นไปในศีล ไม่ได้เป็นไปในความสงบของจิต และไม่ได้เป็นไปในการอบรมเจริญปัญญาแล้ว ก็เป็นอกุศล โดยตลอด ถ้าไม่กล่าวถึงขณะที่เป็นวิบาก กับ กิริยา ซึ่งปกติอกุศลก็เกิดขึ้นมากและโดยไม่รู้ตัวเลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ