การบริโภคอาหารแต่ละครั้ง พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงสภาพธรรมตามความเป็นจริง คือ เมื่อเป็นอกุศล ก็ทรงแสดงว่าเป็นอกุศล สภาพธรรมใดที่เป็นกุศล ก็ทรงแสดงว่าเป็นธรรมที่เป็นกุศล
คนที่มีอายุอยู่ถึง ๓๖,๐๐๐ ราตรี ย่อมบริโภคอาหาร ๗๒,๐๐๐ เวลา คือ ฤดูหนาว ๒๔,๐๐๐ เวลา ฤดูร้อน ๒๔,๐๐๐ เวลา ฤดูฝน ๒๔,๐๐๐ เวลา
พร้อมๆ กับดื่มนมมารดา และอันตรายแห่งการบริโภคอาหาร ใน ๒ ประการนั้น อันตรายแห่งการบริโภคอาหาร มีดังนี้ คือ คนโกรธย่อมไม่บริโภคอาหาร คนมีทุกข์ก็ไม่บริโภคอาหาร คนป่วยไข้ก็ไม่บริโภคอาหาร คนรักษาอุโบสถก็ไม่บริโภคอาหาร เพราะไม่ได้อาหารจึงไม่บริโภคอาหาร
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เรากำหนดอายุประมาณแห่งอายุฤดู ปี เดือน กึ่งเดือน ราตรี วัน การบริโภคอาหาร และอันตรายแห่งการบริโภคอาหาร ของมนุษย์ผู้มีอายุ ๑๐๐ ปี ด้วยประการดังนี้แล้ว
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย กิจใดที่ศาสดาผู้แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล ผู้อนุเคราะห์ เอื้อเอ็นดู พึงกระทำแก่สาวก กิจนั้นเรากระทำแล้วแด่เธอทั้งหลาย
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย นั่นโคนไม้ นั่นเรือนว่าง ขอเธอทั้งหลายจงเพ่งพินิจ อย่าประมาท อย่าต้องเป็นผู้เดือนร้อนใจในภายหลังเลย นี้คืออนุศาสนีของเราสำหรับเธอทั้งหลาย
ท่านผู้ฟังบริโภคอาหารเท่าไร เป็นระยะเวลาที่สั้น ที่ท่านควรระลึกว่า มีชีวิตอยู่วันหนึ่งๆ นับได้หลายนัย หลายวิธี แต่วิธีหนึ่งที่ทรงแสดงไว้ คือ การบริโภคอาหารแต่ละครั้ง ซึ่งถึงแม้ว่าพระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงสภาพธรรมตามความเป็นจริง คือ เมื่อเป็นอกุศล ก็ทรงแสดงว่าเป็นอกุศล สภาพธรรมใดที่เป็นกุศล ก็ทรงแสดงว่าเป็นธรรมที่เป็นกุศล แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ที่ได้รู้ ได้เข้าใจแล้ว ก็ยังคงมีอกุศลธรรม และอกุศลกรรม ตามกำลังการสะสมของกิเลสที่เป็นปัจจัย เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าพระผู้มีพระภาคจะได้ทรงแสดงว่า ควรละเว้นอกุศลกรรม ก็แล้วแต่การสะสมกุศล อกุศล และความเข้าใจในเหตุในผลของธรรม ที่จะเป็นปัจจัยทำให้ท่านละเว้นอกุศลกรรมได้หรือไม่ ซึ่งก็แล้วแต่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับแต่ละบุคคล
ขอเชิญรับฟัง
อรกานุสาสนีสูตร
ยินดียิ่งในกุศลจิตค่ะ