บทว่า สตฺถุ สาสนกโร ได้แก่ ผู้กระทำตามอนุสาสนี ของพระศาสดา บทว่า โอวาทปฏิกโร ได้แก่ ผู้กระทำตามโอวาท.ก็ในเรื่องนี้ การกล่าวคราวเดียว ชื่อว่าโอวาท การกล่าวบ่อยๆ ชื่อว่า อนุสาสนี. แม้การกล่าวต่อหน้า ก็ชื่อว่า โอวาท การส่ง (ข่าว) ไปกล่าวลับหลัง ชื่อว่า อนุสาสนี. การกล่าวในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว ชื่อว่า โอวาท. ส่วนการกล่าวในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นหรือยังไม่เกิดขึ้น ชื่อว่า อนุสาสนี. พึงทราบความแปลกกันอย่างนี้. แต่เมื่อว่าโดยปรมัตถ์ คำว่า โอวาท หรืออนุสาสนีนั้น เป็นอันเดียวกันมีอรรถอันเดียวกัน เสมอกัน เข้ากันได้ เกิดร่วมกันนั้นนั่นแล.ก็ในที่นี้ คำว่าภิกษุทั้งหลาย หากภิกษุเสพเมตตาจิต แม้เพียงลัดนิ้วมือเดียว นี้แล เป็นคำสอนและเป็นโอวาทของพระศาสนา พึงทราบว่า ภิกษุนั้น ชื่อว่า ผู้ทำตามคำสอน และผู้สนองโอวาท เพราะปฏิบัติคำสอนและโอวาทนั้น..............................................การกล่าวคราวเดียว ชื่อว่า โอวาทการกล่าวบ่อยๆ ชื่อว่า อนุสาสนีการกล่าวต่อหน้า ชื่อว่า โอวาทการส่ง (ข่าว) ไปกล่าวลับหลัง ชื่อว่า อุสาสนี
และอื่นๆ อีกเมื่อว่าโดยปรมัตถ์ คำว่า โอวาท หรืออนุสาสนีนั้น เป็นอันเดียวกันมีอรรถอันเดียวกัน เสมอกัน เข้ากันได้ เกิดร่วมกันนั้นนั่นแล.
อนุโมทนา
อนุโมทนาค่ะ
เหตุที่เราต้องกล่าวนโม 3 จบ (ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาพุทธเจ้าพระองค์นั้น)
หรือข้าพเจ้าขอมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง แม้วาระที่หนึ่ง แม้วาระที่สอง แม้
วาระที่สาม เพื่อตอกย้ำ และแสดงถึงความมั่นคงในพระรัตนตรัยค่ะ