จากที่ได้ฟังมาว่า เมื่อคฤหัสถ์บรรลุคุณธรรมขั้นพระอรหันต์แล้ว ถ้าไม่ถือเพศบรรชิตก็จะตายภายใน ๗ วัน เพราะเหตุใดเพศคฤหัสถ์จึงรองรับคุณธรรมของพระอรหันต์ไม่ได้คะ ในเมื่อการละอาสวะกิเลสทั้งหลายเป็นกิจของจิต เจตสิกเท่านั้น รูปเป็นเพียงผลของกรรม เพศคฤหัสถ์ เพศบรรพชิตเป็นเพียงบัญญัติ การตายก็เป็นผลของกรรมที่สมควรแก่เหตุที่ได้กระทำสำเร็จแล้ว
ขอคำอธิบายโดยละเอียดด้วยค่ะ
เมื่อคฤหัสถ์บรรลุคุณธรรมขั้นพระอรหันต์แล้ว ถ้าไม่ถือเพศบรรชิตก็จะปรินิพพานภายในวันนั้น จากข้อความในอรรถกถา ตัวอย่างในพระไตรปิฎก ท่านย่อมออกบวชหรือปรินิพพานภายในวันนั้น เพราะเพศคฤหัสถ์เป็นเพศต่ำไม่สามารถรองรับคุณธรรมขั้นสูงไว้ได้
โปรดอ่านคำอธิบายจากมิลินทปัญหาที่ยกมาพร้อมคำอุปมา
เชิญคลิกอ่าน ...
ฆราวาสได้เป็นพระอรหัตหากไม่บวชต้องเข้าสู่พระนิพพาน [มิลินทปัญหา]
ขออนุโมทนาค่ะ
อยากให้อธิบายแบบท่านอาจารย์สุจินต์ที่อธิบายสภาวธรรมที่มูลนิธิฯ ค่ะ เพราะเข้าใจและเห็นแจ้งทะลุปรุโปร่งมากกว่า อุปมายังเป็นเรื่องราวของความนึกคิด แต่สภาวธรรมละเอียดลึกซึ้งกว่านั้น
โดยนัยปรมัตถธรรมทั้งหมดเป็นเพียงนามธรรมและรูปธรรม ไม่มีคฤหัสถ์ บรรพชิต การที่พระอรหันต์จะจุติก็เพราะเหตุปัจจัย เป็นเพียงวิบากจิตเกิดขึ้นกระทำกิจเท่านั้น
ขออนุโมทนาในเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ที่ช่วยสืบสานพุทธประสงค์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กราบขอบพระคุณค่ะ
ขออนุโมทนา คำตอบชัดเจนดี และเป็นที่หายสงสัยทั้งสองแบบค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
น่าจะเป็นอุปมาว่าการตายเป็นการอุบัติขึ้นทางใจ คือ การที่มีความเข้าใจถูกต้องเกิดขึ้น ความเข้าใจผิดก็สูญไป เพราะแท้จริงคือการเข้าใจธรรมนั่นเอง
จิตหรือใจ เป็นสภาพรู้ ที่มีการเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วมาก จิตที่ดับไปก็เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น การเกิดดับของจิตเป็นขณิกมรณะ หรือเป็นการตายทุกๆ ขณะจิต
ความเข้าใจพระธรรมเป็นปัญญา ซึ่งต้องเริ่มด้วยสัมมาทิฏฐิ ผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรมก็ย่อมไม่เข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่ปรากฏในชีวิตประจำวัน จึงยึดถือทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ บุคคล
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงหนทางอบรมเจริญปัญญาอย่างละเอียด ทรงแสดงเหตุและปัจจัยที่ทำให้การอบรมปัญญาเจริญขึ้น ซึ่งโดยย่อ ก็คือ การฟังธรรมและเห็นประโยชน์ของการศึกษาธรรม เมื่อปัจจัยทั้งสองนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เนืองๆ ปัญญาก็ย่อมอบรมเจริญขึ้นได้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ยินดีในกุศลจิตค่ะ