* ภิกษุ คือผู้เห็นภัยในสังสารวัฏฏ์ หมายถึงพุทธบริษัททั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ที่เห็นโทษภัยของการที่ต้องเกิด-ตาย ในแต่ละภพชาติ ซึ่งก็คือสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปในแต่ละขณะเดี๋ยวนี้เอง เพราะมีความเข้าใจธรรม ตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
* ทวาร คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ซึ่งเป็นทางให้จิตเกิดขึ้นรู้สิ่งที่ปรากฏในแต่ละทาง เช่น ตา เป็นทางให้จิตเกิดขึ้นรู้สิ่งที่ปรากฏทางตา คือสี
* ชีวิตในแต่ละวัน ที่ตื่นขึ้นรู้สิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็เป็นไปด้วยความไม่รู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏ และอกุศลต่างๆ อย่างมากมาย
* สำรวม คือสภาพธรรม ได้แก่จิตและเจตสิก ที่เป็นไปในการระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง
ดังนั้น จึงไม่ใช่เราจะสำรวม แต่เป็นธรรมที่ทำกิจสำรวม
* สำรวมในทวาร ก็คือสติที่ระลึก ปัญญาที่รู้ ตรงลักษณะของสิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้นกาย ใจ ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน เกิดแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลย และปัญญาก็เจริญต่อไปจนประจักษ์แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสเป็นพระอริยบุคคลตามลำดับ ถึงความเป็นพระอรหันต์ จึงพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เพราะเมื่อดับขันธปรินิพพานแล้ว ก็จะไม่มีสภาพที่เป็นทุกข๋ คือธรรมที่อาศัยปัจจัยปรุงแต่งเกิดแล้วดับ อีกเลย
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ