ความรักในสมัยเด็กๆ พ่อแม่อาจจะรักและห่วงใยเราความรักแบบนี้ถือเป็นเรื่องดี แต่พอ เวลาผ่านไปครอบครัวเริ่มมีสมาชิกใหม่มากขึ้นความรักนั้นเปลี่ยนไปเป็นการรักพี่มากกว่า น้อง รักน้องมากกว่าพี่เป็นต้น ผมยังเป็นเด็กอยู่ยังไม่เข้าใจปัญหาแบบนี้ ใครที่ พอ รู้เรื่องนี้ ช่วยตอบที และ ถ้าเกิดเราโกรธพ่อแม่เพราะเค้ารัก ใครมากกว่ามัน จะ บาป ไหม ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ความรักในภาษาไทย ที่เราเข้าใจกันก็มักเป็นเรื่องที่ดี แต่ในทางธรรม มีความละเอียด มากกว่านั้น เพราะควารักเกิดจากจิตที่ละอียด วิจิตรครับ ความรักในธรรม มีทั้งที่เป็นสิ่ง ที่ดี ที่เป็น เมตตา และความรักที่ไม่ดี ที่เป็นโลภะ ความติดข้อง ซึ่งความรักที่เป็น เมตตาและโลภะความติดข้อง การกระทำที่แสงดออกมาทางกายและวาจา อาจจะ เหมือนกัน คือดูแลช่วยเหลือ แต่สภาพจิตนั้นต่างกันครับ ความเมตตา ที่เป็นสิ่งที่ดี เป็นความปรารถนาดีทั้งทางกาย วาจาและใจ แต่ไม่ติดข้อง ไม่ใช่ความต้องการเป็นเจ้า ของ ดังนั้นเมตตา จึงไม่เป็นปัจจัยให้เกิดความทุกข์ ความไม่สบายใจ ความเสียใจ เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการเพราะความเมตตา ไม่ได้หวังสิ่งใด แม้แต่ความรักเลยในการ ทำสิ่งต่างๆ ให้บุคคลนั้นครับ
ส่วน ความรักที่ไม่ดี คือ โลภะ ความติดข้อง เมื่อใดที่ติดข้อง ต้องการก็มีการ กระทำประโยชน์ให้ แต่เพราะมีความติดข้อง ปรารถนา อยากให้ผู้อื่นรัก เป้นต้น เมื่อไม ได้ในสิ่งนั้น ก็ทำให้ผิดหวัง เสียใจ เพราะอาศัย โลภะ ความติดข้องเป็นเหตุครับ ซึ่งขอให้ผู้ถามได้เข้าใจเบื้องต้นครับว่า โลภะ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ทีเกิดเป็นปกติ ในชีวิตประจำวัน สำหรับพวกเราที่สะสมกิเลสมามาก โลภะ เป็นสภาพธรรมที่พอใจ ติดข้อง และชอบ เช่น พอใจที่จะทานอาหาร พอใจ ชอบในอาหารประเภทนั้น พอใจ ชอบติดข้องในคนที่รัก มี บิดา มารดา เป็นต้น โลภะ จึงเกิดได้ ติดข้องแทบทุกอย่าง ครับ ซึ่งผลของโลภะ ความติดข้อง คือ ความเศร้าโศก เสียใจ เพราะว่า สิ่งต่างๆ ไม่ ได้เป็นดั่งใจเราเสมอไปเลยครับ จึงต้องทุกข์ใจในสิ่งที่เราไมได้ครับ
ดังนั้น อย่างเช่นในกรณีของผู้ถามได้ยกมานั้น เรื่องความรักของพ่อแม่ที่รักพี่มากกว่า น้อง รักน้องมากกว่าพี่ ก็ทำให้เมื่อเคยได้รับความรัก แต่เมื่อได้รับสิ่งที่เคยได้รับน้อยลงก็ ทำให้เสียใจ เพราะติดข้อง มีโลภะ ในบิดา มารดาที่เคยให้ความรักมาก่อนนั่นเองครับ จึงให้รู้ว่าเป็นธรรมดาที่จะต้องเสียใจบ้าง เพราะติดข้องในความรักที่พ่อแม่ มีให้ ค่อยๆ เข้าใจความเป็นธรรมดาของชีวิตว่าเกิดจากกิเลส ก็จะค่อยๆ คลายความทุกข์บ้างครับ ซึ่ง ปัญหาที่สำคัญคือ เราจะต้องคิดถึงคนอื่นมากกว่าตนเอง ไม่ว่าใครจะรักเรามากหรือน้อย นั่นเรื่องของเขา แต่เราต้องทำหน้าที่ของบุตรที่ดี คือ การทำหน้าที่ตอบแทนพระคุณเท่า ที่ทำได้ครับ อันนี้สำคัญกว่าครับ
ส่วนการที่เราโกรธบิดา มารดา เป็นธรรมดาที่จะต้องโกรธ ไม่พอใจ เพราะเราติดข้อง ในบิดา มารดา เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็จะทำให้ขุ่นใจไม่พอใจ แต่หากเราไม่ได้พูดว่า ร้ายหรือ แสดงออกทางกายที่ไมดี กับ บิดา มารดา ก็ไมได้เป็นบาปที่รุนแรงที่จะต้องทำ ให้เราได้รับสิ่งที่ไม่ดีหรอกครับ บิดา มารดาท่านรักลูกทุกคนครับ แต่ว่าจะต้องเข้าใจว่า ช่วงเวลาใด เป็นช่วงเวลาที่จะดูแลคนนี้มากเป็นพิเศษ เพราะน้องเขายังเด็กกว่าเรา หรือ มีเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้เราเข้าใจผิดคิดว่ารัก มากกว่า หากเราเข้าใจเหตุผลตรงนี้ก็จะดีขึ้น บิดามารดาท่านรักเรา และเราก็ควรเป็น คนดี อันเป็นสิ่งที่ควรทำในการเป็นลูกของท่านครับ ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้ดับความติดข้องต้องการ (โลภะ) ได้อย่างเด็ดขาด โลภะก็ย่อมจะเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม บุคคลผู้ที่เป็นพ่อแม่นั้น มีความรัก ต่อลูกเป็นอย่างมาก ซึ่งคำว่า "รัก" ในที่นี้ ก็ต้องพิจารณาที่สภาพจิต ด้วย เพราะถ้าเป็นความยินดีพอใจ ติดข้อง นั่นเป็นโลภะ แต่ถ้าเป็นความหวังดี ปรารถนาดี นั่น ไม่ใช่โลภะ แต่เป็นเมตตา ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ใกล้เคียงกันมาก และอาจจะเกิดสลับกันก็ได้ เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย หน้าที่ของผู้ที่เป็นลูก ไม่ใช่จะต้องไปคิดเล็กคิดน้อยว่า่พ่อแม่จะรักเรามากน้อยแค่ไหน จะไปรักคนอื่นมากกว่าตัวเราหรือไม่ แต่หน้าที่ของลูกคือ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ ด้วยการเป็นคนดี ตั้งใจเรียน ช่วยเหลืองานของท่านให้เต็มที่เท่าที่จะกระทำำได้และ้ถ้ามีพี่ ก็ต้องเป็นน้องชายที่ดีของพี่ ถ้ามีน้อง ก็ต้องเป็นพี่ที่ดีของน้อง กระทำหน้าที่ของตนให้ดีทีุ่สุด นอกจากนั้นแล้วก็จะต้องเป็นคนดี กับทุกคน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่ใชเฉพาะเพียงคนภายในบ้านเท่านั้น สิ่งที่สำคัญทีุ่สุด คือ เป็นคนดีและ จะต้องศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ด้วย นะครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ถ้าเริ่มศึกษาธรรมะ ด้วยการฟัง หรือ อ่านธรรมะบ่อยๆ จะช่วยให้เราค่้อยๆ เข้าใจ ธรรมะมากขึ้น ความเข้าใจเป็นปัญญาที่จะทำให้เราเป็นคนมีเหตุผล และ ท ำให้เรา ดำเนินชีวิตในทางที่ดี เป็นคนดี เสียสละ แบ่งปัน มีน้ำใจ ช่วยเหลือทุก ๆ คน ถ้าเราทำเหตุดี ผลก็ต้องดีด้วยการทำความดี ถึงแม้ว่าคนไม่เห็น แต่เทวดาท่านรู้ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
โดยทั่วไปพ่อ-แม่ก็รักลูกเท่ากันทั้งนั้นเพียงแต่บางเวลาอาจห่วงลูกคนเล็กมากหน่อย บาปไม่บาปอยู่ที่จิตในขณะนั้น (โกรธเป็นอกุศล)
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อกุศลจิตเกิดก็คือบาปกุศลจิตเกิดก็คือบุญ (บาปไม่บาปอยู่ที่เจตนา)
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาด้วยค่ะ
ตัวเราเองก็ยังรักใครชอบใครไม่เท่ากันเลยค่ะ แต่ที่เอ่ยแบบนี้ไม่ใช่สนับสนุนว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันนะคะ ขอยกตัวอย่างมีเด็กวัยรุ่นมาปรึกษา ว่า พ่อแม่รักน้องมากกว่าซื้อของให้น้องมากกว่า ก็อธิบายให้เขาฟังว่าตอนเราเด็กๆ พ่อแม่ก็ดูแลเอาใจใส่ป้อนน้ำป้อนนมให้ จูงมือหรืออุ้มพาไปเที่ยว เราไม่เห็นหรือจำภาพนั้นไม่ได้เพราะยังเด็กเกินไป ก็ลืมเหมือนกับไม่เคยได้รับการปฏิบัติจากพ่อแม่เช่นนั้น พอเราโตเห็นพ่อแม่ดูแลเอาใจใส่น้องก็คิดน้อยใจว่าพ่อแม่รักน้องมากกว่า จากประสบการณ์การทำงานเด็กเล็กๆ เวลาบอกอะไรเขาจะจำสิ่งนั้นและปฏิบัติตามได้ดี เช่น เรื่องกินยา แต่พอโตเป็นวัยรุ่นเริ่มละเลยการกินยา ดื้อกว่าเด็กๆ ด้วยซ้ำ ดิฉันยอมรับว่าเอ็นดูเด็กเล็กๆ มากกว่าเด็กโตค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ