ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 89-91
นิททาตันทิสูตร
ว่าด้วยมรรคปรากฏและไม่ปรากฏ
[๓๔] เทวดากล่าวว่า อริยมรรค ไม่ปรากฏแก่สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้เพราะความหลับ เกียจคร้าน ความบิดกาย ความไม่ยินดี และ ความมึนเมาเพราะภัต
[๓๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เพราะขับไล่ความหลับความเกียจคร้าน ความบิดกาย ความไม่ยินดี และ ความมึนเมาเพราะภัต ด้วยความเพียรอริยมรรค ย่อมบริสุทธิ์ได้.
อรรถกถา นิททาตันทิสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในนิททาตันทิสูตรที่ ๖ ต่อไป :-
บทว่า นิทฺทา อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าดูก่อนอัคคิเวสนะ เราย่อมทราบ ในเดือนท้าย ฤดูคิมหันต์ (ฤดูร้อน) เราก้าวลงสู่ความหลับ ดังนี้ เพราะความหลับ อันเป็นอัพยากตะ เห็นปานนี้ ถีนมิทธะ จึงเกิดขึ้นในอกุศลจิตอันเป็นสสังขาริกของพระเสขะและปุถุชนทั้งหลายทั้งในส่วนเบื้องต้นและเบื้องปลาย.
บทว่า ตนฺที ได้แก่ ความโงกง่วงอันจรมาเกิดขึ้นในเวลาหิวจัดและเย็นจัดเป็นต้น. คำนี้ สมจริง ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า กตมา ตนฺทิ บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตนฺที เป็นไฉน ความง่วงงุน กิริยาที่ง่วงงุน สภาพจิตที่ง่วงงุนความเกียจคร้าน กิริยาที่เกียจคร้าน สภาพจิตที่เกียจคร้าน อันใดนี้เรากล่าวว่า ทันที ดังนี้.
บทว่า วิชิมฺหิตา แปลว่า ความบิดกาย
บทว่า อรติ ได้แก่ ความไม่พอใจในธรรมฝ่ายกุศล
บทว่า ภตฺตสมฺมโท แปลว่าความมึนเมาเพราะอาหาร ความอึดอัดเพราะอาหาร. ก็ความพิสดารแห่งคำเหล่านี้ มาแล้วในพระอภิธรรมโดยนัยเป็นต้นว่า ตตฺถ กตมา วิชิมฺหิกา ยา กายสฺส วิชิมฺหนา แปลว่าบรรดาคำเหล่านั้น คำว่า ความบิดกายเป็นไฉน ความเหยียดแห่งกาย อันใด
บทว่า เอเตน ความว่า ความเศร้าหมองด้วยอุปกิเลส มีความหลับ เป็นต้นนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่ห้ามได้. บทว่า นปฺปกาสติ ได้แก่ ไม่ส่องแสง คือ ไม่ปรากฏ. บทว่า อริยมคฺโค ได้แก่ โลกุตรมรรค. บทว่า อิธ แปลว่า ในโลกนี้. บทว่า ปาณินํ แปลว่า แก่สัตว์ทั้งหลาย. บทว่า วิรเยน ได้แก่ ความเพียรซึ่งเกิดพร้อมกับมรรค. บทว่า นํ ปณาเมตฺวา นี้ได้แก่ นำกิเลสออกแล้ว. บทว่า อริยมคฺโค ได้แก่ โลกิยะและโลกุตรมรรค. เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า มรรคย่อมบริสุทธิ์เพราะ นำอุปกิเลสออกแล้ว ด้วยมรรค นั่นแหละ.ดังนี้แล.
จบอรรถกถานิททาตันทิสูตรที่ ๖
ขออนุโมทนาขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และ สรรพสัตว์.
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น