การฟังธรรมเพียงอย่างเดียวจะทำให้รู้ความจริงได้อย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การฟังธรรม คือ การฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ซึ่งขณะที่ฟังธรรมแล้ว ฟังเข้าใจ ขณะนั้นปัญญาก็ค่อยๆ เกิดขึ้นตามลำดับ กุศล คุณงามความดีประการต่างๆ ก็ค่อยๆ เจริญขึ้น ความคิดถูก การพิจารณาถูก ก็ค่อยๆ เกิดขึ้นจากการฟัง หรือ อ่านพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง หรือ จากผู้รู้ ที่แสดงพระธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง และปัญญาที่รู้ความจริง ที่เรียกว่า ปฏิบัติก็เกิดขึ้นได้ เพราะอาศัยการฟัง ศึกษาพระธรรม
จะเห็นได้ว่าไม่มีตัวเราที่จะไปปฏิบัติจะไปพิจารณาธรรมนอกเหนือจากการฟัง แต่เพราะอาศัยการฟัง ศึกษาพระธรรม การพิจารณา การปฏิบัติถูกก็เกิดขึ้นได้เมื่อปัญญาเจริญขึ้น อันเกิดจากการฟัง ศึกษาพระธรรมเป็นสำคัญ ครับ ดั่งเช่น พระอริยสาวก ในอดีตมากมาย ที่ท่านสะสมปัญญามา เมื่อได้ฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ได้บรรลุธรรม เพราะขณะที่ฟังเข้าใจ ขณะนั้น ปัญญาเกิดรู้ความจริงทำให้บรรลุธรรมในขณะนั้น ซึ่งการบรรลุธรรมก็อาศัยการฟังพระธรรม และในอดีต ท่านก็ฟังพระธรรมทำให้เกิดปัญญา เกิดความเข้าใจ ทำให้มีการสะสมคุณงามความดี เรียกว่า บารมี มากมาย เพราะฉะนั้น อาศัยสิ่งต่างๆ คุณงามความดีประการต่างๆ รวมทั้งปัญญาประกอบกันทำให้บรรลุธรรม แต่สิ่งเหล่านี้จะมีไม่ได้เลย หากไม่ได้ฟังพระธรรม เพราะฉะนั้น การฟังธรรมจึงเป็นเหตุให้บรรลุธรรมได้ ครับ
ได้ยินว่า พระมหาจุนทเถระ ได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
การฟังดีเป็นเหตุให้การฟังเจริญ การฟังเป็นเหตุให้เจริญปัญญา บุคคลจะรู้ประโยชน์ก็เพราะปัญญา ประโยชน์ที่บุคคลรู้แล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ภิกษุควรซ่องเสพเสนาสนะอันสงัด ควรประพฤติธรรมอันเป็นเหตุ ให้จิตหลุดพ้นจากสังโยชน์ ถ้ายังไม่ได้ประสบความยินดี ในเสนาสนะอันสงัดและธรรมนั้น ก็ควรเป็นผู้มีสติรักษาตน อยู่ในหมู่สงฆ์. ฯลฯ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บุคคลผู้ที่สะสมปัญญา ซึ่งเป็นความเข้าใจถูก เห็นถูกมาในอดีต เมื่อได้เหตุปัจจัย กล่าวคือ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็ย่อมทำให้เป็นผู้เห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรมศึกษาธรรม และอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน ความเข้าใจคือปัญญาเท่านั้น ที่จะดับกิเลสได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าความเข้าใจธรรมนั้นเป็นเครื่องวัดความประพฤติทางกาย ทางวาจา และทางใจ เมื่อมีความเข้าใจธรรมแล้ว ก็ประพฤติปฏิบัติตาม การประพฤติปฏิบัติตามมีหลายระดับ เริ่มตั้งแต่เมื่อมีความเข้าใจย่อมเห็นโทษของอกุศลว่าให้ผลเป็นทุกข์ ไม่เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งเห็นคุณของกุศลว่า ให้ผลเป็นความสุข ความประพฤติทางกาย ทางวาจา และทางใจ ก็ค่อยๆ ดีขึ้น
ถ้าความดีขั้นต้นในชีวิตประจำวันไม่มีแล้ว จะถึงการดับกิเลสได้อย่างไร? นี้คือสิ่งที่ทุกคนควรพิจารณา เมื่อกุศลประการต่างๆ ค่อยๆ เจริญขึ้น การน้อมประพฤติปฏิบัติธรรมขั้นสูงยิ่งๆ ขึ้น ก็ค่อยๆ เจริญขึ้น ตามความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จนกว่าจะรู้ตามความเป็นจริงว่าทุกอย่างที่กำลังปรากฏเป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ซึ่งก็ยังอีกยาวนานมาก กว่าที่จะรู้ตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น ทุกๆ วันจึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทุกคนจะได้ทำชีวิตที่ยังมีอยู่ ยังเหลืออยู่นี้ ให้เป็นชีวิตที่มีค่ามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ด้วยการสะสมปัญญาจากการฟังพระธรรมในแต่ละครั้ง สะสมอริยทรัพย์ซึ่งเป็นทรัพย์อันประเสริฐให้กับตนเองต่อไป ทุกๆ วันควรเป็นวันที่จะทำให้ตนเองได้เข้าใจธรรม แล้วจะเข้าใจพระธรรมได้อย่างไร ถ้าไม่ได้ฟัง ดังนั้น การฟังพระธรรมจึงเป็นเหตุให้ความเข้าใจเจริญขึ้น เพราะการฟังพระธรรม เป็นการฟังสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาวกแปลว่าผู้ฟัง ในครั้งพุทธกาล ท่านพระสารีบุตรได้ฟังธรรมจากท่านพระอัสสชิว่า ธรรมเหล่าใดเกิดจากเหตุ พระตถาคตแสดงเหตุและความดับแห่งธรรมะเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติกล่าวอย่างนี้ ท่านพระสารีบุตรได้ฟังแล้วบรรลุเป็นพระโสดาบันค่ะ
ขอคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ฟังจนกว่าจะรู้ความจริง
เชิญคลิกฟังได้ค่ะ
ฟังธรรมแล้วไม่ท้อถอย ฟังให้เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรม
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มได้ที่...
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเข้าใจความจริงถูกขึ้น [ชนสันธชาดก]
ความจริง [อักโกสกสูตร]
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
พระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีประโยชน์มากกับผู้ที่สนใจเท่านั้น ศึกษาธัมมะก็คือศึกษาสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ ฟังจนมีความเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ มิใช่เรา เช่นก่อนศึกษาพระธรรม ก็เป็นเราผู้ศึกษา เป็นสมบัติของเรา แต่กว่าจะเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงก็ควรศึกษาพื้นฐานอภิธรรมด้วย เพราะสภาพธรรมที่เกิดและปรากฏในชีวิตประจำวัน ก็ไม่พ้นจิต เจตสิก และรูป รูปที่ปรากฏทางตามีความเข้าใจว่าอย่างไร มิใช่ด่วนไปศึกษาของการเกิดและดับไปของรูป หลังเห็นแล้วมีความติตข้องอย่างไรกับสิ่งที่เห็น เช่นเดียวกับการได้ยิน
วันหนึ่งๆ กุศล หรือ อกุศลเกิดมากกว่ากัน ถ้าเริ่มมีความเข้าใจ สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ เช่น ขณะรับประทานอาหาร ก็มีความจริงให้ศึกษาได้ เพราะว่าขณะมีอาหารอยู่ในปาก แต่ไม่ศึกษารส กลับไปคิดนึกเรื่องที่ผ่านไปแล้ว หรือเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ก็จะไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง ความคิดที่เกิดขึ้นก็มีจริง เป็นธัมมะ น่าศึกษาด้วยเช่นกัน แต่ขณะกินก็มิใช่ขณะคิด ถ้าเข้าใจตรงนี้ จิตก็จะไม่ไปฟุ้งซ่านเรื่องของความคิด ท่านอาจารย์ก็ได้พูดถึงแข็ง จิตก็รู้แข็งได้ ถ้าเริ่มเข้าใจในลักษณะของแข็งที่เกิดปรากฏตลอดเวลา จิตก็จะอยู่กับความจริงเดี๋ยวนี้ ฟังไปเรื่อย แต่ก่อนไม่เคยสนใจการฟัง แต่พอเริ่มเข้าใจ อะไรๆ หลายอย่างที่ชอบในอดีตก็จะลดน้อยไป การสนใจในการอ่านหนังสือพื้นฐานอภิธรรม และการฟังธรรมของท่านอาจารย์ ก็จะมีเพิ่มขึ้น ความเข้าใจก็จะมีเพิ่มขึ้น สักวันหนึ่งก็จะรู้ความจริง
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ