[เล่มที่ 33] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 144
อรรถกถาสูตรที่ ๑๐
ประวัตินางกาฬีอุบาสิกาชาวกุรรฆรนคร
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 33]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 144
อรรถกถาสูตรที่ ๑๐
๑๐. ประวัตินางกาฬีอุบาสิกาชาวกุรรฆรนคร
ในสูตรที่ ๑๐ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ด้วยบทว่า อนุสฺสวปสนฺนานํ ท่านแสดงว่า นางกาฬีอุบาสิกาชาวกุรรฆรนคร เป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นโดยฟังตามๆ กันมา.
ดังได้สดับมา นางกาฬีอุบาสิกานั้น ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่า
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 145
ปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนสกุล กรุงหังสวดี กำลังฟังธรรมกถาของพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกาผู้เลื่อมใสโดยฟังตามๆ กันมา จึงทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น. นางเวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป ในพุทธุปบาทกาล บังเกิดในเรือนสกุล กรุงราชคฤห์. เหล่าญาติได้ตั้งชื่อนางว่า กาฬี. นางเจริญวัยแล้วมีสามีในกุรรฆรนคร. ครั้งนั้น โดยการอยู่ร่วมกันนางจึงตั้งครรภ์. นางมีครรภ์ครบกำหนดแล้วคิดว่า การคลอดบุตรในเรือนของคนเหล่าอื่นไม่สมควร จึงไปกุรรฆรนครของตน ต่อจากเวลาเที่ยงคืน ฟังคำของเหล่าสาตาคิรยักษ์และเหมวตยักษ์ซึ่งยืนในอากาศเหนือปราสาทของตน กล่าวพรรณนาพระคุณพระรัตนตรัย เกิดความเลื่อนใสที่ได้ยินเสียงสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล โดยยังไม่ได้เฝ้าพระศาสดาเลย ต่อมานางก็คลอดบุตร. เรื่องทั้งหมดกล่าวไว้พิสดารแล้วในหนหลัง. ต่อมา พระศาสดาประทับนั่งท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาเหล่าอุบาสิกาไว้ในตำแหน่งต่างๆ จึงทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้นี้ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสิกา ผู้เสื่อมโดยฟังตามๆ กันมา แล.
จบอรรถกถาอุปาสิกาปาลิ ประดับด้วยสูตร ๑๐ สูตร
จบประวัติอุสิกาสาวิกาเอตทัคคะ ๑๐ ท่าน
จบอรรถกถาเอตทัคคปาลิทั้งหมด ในมโนรถปูรณี
อรรถกถาคุตตรนิกาย ด้วยสูตรมีประมาณเท่านี้.