" วัตถุประสงค์ โดยย่อของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา คือศึกษา
ปฏิบัติธรรม เผยแพร่พระธรรมตามแนวพระไตรปิฎก และจัดพิมพ์เอกสารประกอบการ
ศึกษาพระไตรปิฎก เผยแพร่เป็นสาธารณกุศล "
ผมยกเนื้อความ มาจากหน้าแรก (Intro Page) ของเวบไซต์ บ้านธัมมะ เพื่อนำ
เข้าสู่ประเด็นคำถามครับว่า ผู้ศึกษาพระธรรม ควรศึกษาเพิ่มเติมจากพระไตรปิฎกและ
อรรถกถาหรือไม่
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ไม่ลืมในเรื่องจุดประสงค์ของการศึกษาธรรม คือเป็นไปเพื่อละ ขัดเกลากิเลสและรู้สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ การศึกษาพระไตรปิฎกเป็นสิ่งที่ควรศึกษาเพื่อความเข้าใจถูก อันเป็นไปเพื่อความเจริญของปัญญาและขัดเกลากิเลส รู้ความจริงในขณะนี้
พระไตรปิฎก คือ พระธรรมที่พระพุทธองค์ ทรงแสดง อันเกิดจากพระปัญญา ของพระพุทธเจ้า อันลึกซึ้ง สุดประมาณ ดังนั้น ในการศึกษาพระไตรปิฎก คือศึกษาคำสอนของพระปัญญาพระพุทธเจ้าจึงต้องอาศัยกัลยาณมิตรผู้รู้ อ่านเอง คิดเองไม่ได้ครับ เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจเพราะพระธรรมละเอียดลึกซึ้ง หากแต่ว่าความจริงคือพระไตรปิฎกก็คือ การแสดงถึงสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ โดยนัยต่างๆ อันสมควรแก่อุปนิสัยของสัตว์โลก ดังนั้น เมื่อศึกษาพระไตรปิฎก ก็คือเพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีในขณะนี้และขัดเกลากิเลสทุกๆ ประการ นี่คือจุดประสงค์ที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นก็จำได้ แต่ไม่เป็นไปเพื่อการน้อมประพฤติปฏิบัติ คือเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีในขณะนี้และเป็นไปเพื่อการละทั้งหมด ที่สำคัญต้องรู้กำลังของตนว่าสามารถรู้ทั่วถึงคำสั่งสอนของพระ-พุทธเจ้าได้ทั้งหมดหรือว่าควรรู้ในสิ่งที่พอจะรู้ได้ ซึ่งกำลังมีในขณะนี้ ขออนุโมทนา เชิญคลิกฟังที่นี่ครับ จุดประสงค์ในการอ่านพระไตรปิฎก อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาครับ
ผู้ศึกษาพระธรรมควรศึกษาเพิ่มเติมจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาหรือไม่.
.
.
.
ทุกวันนี้ ทางมูลนิธิฯ ก็ ศึกษาพระธรรม จากพระไตรปิฎก ค่ะ.แต่ข้อควรพิจารณา "สำหรับแต่ละบุคคล"คือ
พระวินัย ลึกซึ้ง โดย กิจ.หากศึกษาไม่ดี...ย่อมถึงความเป็น ผู้ทุศีล.พระสูตร ลึกซึ้ง โดย อรรถ.หากศึกษาไม่ดี...ย่อมถึงความเป็น มิจฉาทิฏฐิ.พระอภิธรรม ลึกซึ้ง โดย สภาวะ.หากศึกษาไม่ดี...ย่อมถึงความเป็น ผู้ฟุ้งซ่าน.
.
เท่าที่เคยมีโอกาสได้สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์และสหายธรรมไม่มีใครเคยห้ามไม่ให้อ่านพระไตรปิฎกเลยค่ะมีแต่สนับสนุนให้อ่านพระไตรปิฎก และ อรรถกถา ด้วยตัวเอง.
และ ไม่มีใครห้ามไม่ให้ฟังการแสดงธรรมจากที่อื่นๆ แต่ ให้ฟัง โดยพิจารณา เทียบเคียง กับพระไตรปิฎก และ อรรถกถาด้วยความละเอียด รอบคอบ...ไม่คิดเอาเอง ค่ะ.
.
ข้าพเจ้าเคยเรียนถามท่านอาจารย์ ว่าหนังสือ ปรมัตถธรรมสังเขป นี้...เรียบเรียงขึ้น เพื่อจุดประสงค์อะไร.ท่านตอบว่าเพื่อ "เป็นพื้นฐาน" สำหรับผู้ที่จะศึกษาพระธรรม (อ่าน) โดยตรง จากพระไตรปิฎก ต่อไป ค่ะ.
(ขออภัยที่ต้องอ้างชื่อของท่านอาจารย์...แต่เป็นความจริงค่ะ)
"...เมื่อศึกษาพระไตรปิฎกก็คือเพื่อเข้าใจสภาพ
ธรรมที่มีในขณะนี้และขัดเกลากิเลสทุกๆ ประการ นี่คือจุดประสงค์ที่ถูกต้อง
ไม่เช่นนั้นก็จำได้ แต่ไม่เป็นไปเพื่อการน้อมประพฤติปฏิบัติคือเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีในขณะนี้
และเป็นไปเพื่อการละทั้งหมด..."
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นครับ เป็นคำแนะนำที่มีประโยชน์มาก สำหรับผม
เพราะตลอดระยะเวลาที่ศึกษาพระธรรมจากมูลนิธิฯ ท่านอาจารย์ไม่เคยห้ามหรือบังคับ
ให้ผู้ศึกษาทำสิ่งใด หรือไม่ให้ทำสิ่งใด แต่ท่านแสดงว่าสิ่งใดควรทำ และสิ่งใด
ไม่ควรทำ และที่สำคัญที่สุดคือควรมีความเข้าใจ (ด้วยตนเอง) ว่าที่ทำหรือไม่ทำ
สิ่งใดนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์ หรือมิใช่ประโยชน์
ด้วยเหตุนี้เอง การศึกษาของผมตลอดมาจึงเป็นไปด้วยความปลอดโปร่ง เป็น
ที่สบาย ไม่อึดอัดใจเลยครับ
ขอกราบระลึกถึงพระคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ฯ
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ด้วยเหตุนี้เอง การศึกษาของผมตลอดมาจึงเป็นไปด้วยความปลอดโปร่ง เป็น
ที่สบาย ไม่อึดอัดใจเลยครับ
ขอกราบระลึกถึงพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ฯ
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
.
.
.
ขออนุโมทนาด้วยค่ะ.
ขออนุโมทนาค่ะ
อันนี้แน่นอนครับนาย
ขออนุโมทนา