ผลกรรมจากการยกพระธรรมมาแสดง เพื่อกล่าวว่าผู้อื่่่่นให้สะใจตนเอง
โดย SOAMUSA  5 มี.ค. 2555
หัวข้อหมายเลข 20708

การยกธรรมะพระพุทธเจ้าขึ้นมาแสดง และโยงมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นที่ขัดแย้งกับตน เพื่อมากล่าวกระทบผู้อื่นเพื่อความสะใจของตน เหมือนการหลอกด่าคนทางอ้อม

การยกธรรมะมาแสดงแบบนี้ จะได้รับผลกรรมเช่นไรคะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 7 มี.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมทุกบท มีประโยชน์และมีค่า สำหรับผู้ที่ตั้งจิตไว้ชอบ ด้วยกุศลธรรม หาก แต่ว่า การศึกษาพระธรรม ที่ไม่ดีที่เรียกว่า การศึกษาพระธรรมแบบ จับงูพิษ ที่หาง งูพิษย่อมแว้งกัดได้ เพราะจับไว้ไม่ดี ก็ทำให้เป็นทุกข์ปางตาย ฉันใด การศึกษาพระธรรม อันเป็นไปด้วยอำนาจกิเลส ไม่เป็นไปเพื่อละ สละขัดเกลา มีการเพื่อให้ได้ลาภ สักการะ สรรเสริญ รวมทั้ง เพื่อว่าร้ายผู้อื่นๆ สรุปคือ ศึกษาพระธรรม เพื่อการเพิ่มอกุศล หรือ อกุศลเจริญขึ้น ย่อมมีโทษกับผู้ที่ศึกษาและกล่าวธรรมในทางที่ผิด เพราะการตั้งจิตไว้ ผิด ตั้งจิตในทางอกุศลนั่นเอง ครับ

ซึ่งในพระไตรปิฎก แสดงไว้ครับว่า มี สมณพราหมณ์จำนวนมาก ต่างก็โต้เถียง กล่าวว่าด้วยถ้อยคำที่กล่าวด้วยธรรมของตนในกันและกัน ผู้หนึ่งเห็นเหตุการณ์นี้ จึงกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า สมณพราหมณ์เหล่านี้ มีการโต้เถียง ขัดแย้ง เป็นอานิสงส์ หรือ เป็นผล ส่วนธรรมของพระองค์มีอะไรเป็นผล อานิสงส์ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมที่บุคคลศึกษาดีแล้ว ย่อมมี วิชชาและวิมุตติ คือ การหลุดพ้นจากกิเลสและการเกิดเป็นอานิสงส์ คือ เป็นผล ดังนั้น ผู้ที่ศึกษาธรรมที่ผิด ทำให้มีการโต้เถียง และกล่าวว่ากันด้วยการยกธรรม อานิสงส์ หรือ ผล ของการกระทำนั้น ก็ตรงกันข้าม กับการศึกษาธรรมที่ถูก ผล คือ เพิ่ม อกุศล คือ อวิชชา ความไม่รู้และกิเลสประการต่างๆ และทำให้ไม่หลุดพ้นจากกิเลส และไม่หลุดพ้นจากสังสารวัฏฏ์ คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตายได้เลย ครับ นี่ คือผลของผู้ที่ศึกษาธรรมผิดมีการยกพระธรรมมาว่าร้ายกัน เป็นต้น และขณะที่ตั้งใจว่าร้าย แม้คำนั้น จะเป็นคำที่สุภาพตามชาวเมืองกล่าวกัน หรือ เป็นคำที่เป็นพระธรรมของพระพุทธเจ้า แต่มีจิตร้าย ที่เป็นโทสะ ต้องการว่า ขณะนั้นก็เป็นผรุสวาจาแล้ว เป็นคำหยาบ หาก ครบกรรมบถ ถ้ากรรมให้ผล ก็ทำให้ไปอบายภูมิได้ครับ

การศึกษาพระธรรม จึงเป็นไปเพื่อละ สละขัดเกลากิเลส ดังนั้น การศึกษาพระธรรมจึงมีโทษและมีประโยชน์ หากเป็นผู้ตั้งใจไว้ไม่ดี และ ดี ครับ การแสดงธรรมที่ถูกต้องจึงต้องเป็นไปเพื่อนุเคราะห์ เกื้อกูลกับผู้ที่ได้รับฟัง ให้ได้รับประโยชน์ ธรรมนั้นจึงจะบริสุทธิ์ และเป็นไปเพื่อละ สละกิเลสกับทั้งผู้แสดงและผู้ฟัง อันเป็นไปในการที่จะได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ครับ เพราะไม่มีพระธรรมบทไหนเลย ที่จะแสดงให้ผู้แสดงธรรมและผู้รับฟังเกิดอกุศล ดังนั้น โทษของพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่มีโทษ มีแต่ผู้ที่ศึกษาพระธรรมเองเท่านั้น ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 9 มี.ค. 2555

อกุศลของคนไหนก็ของคนนั้น ผู้มีปัญญา ไม่เพ่งโทษของผู้อื่น ผู้ฉลาดพึงเห็นโทษของตนเองเพื่อแก้ไข การแสดงธรรมที่ดี ต้องเป็นไปตามลำดับ ๑ มีหลักฐาน ๑ ประกอบด้วยเมตตา ๑ ไม่ยกตัวเองไม่ข่มผู้อื่น ๑ ไม่เพ่งลาภสักการะ ๑ ค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 9 มี.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นที่เคารพสักการะบูชาของมนุษย์ เทวดา พรหมทั้งหลาย เพราะพระปัญญาคุณที่พระองค์ทรงตรัสรู้และทรงมีพระมหากรุณาแสดงพระธรรมให้สัตว์โลกได้เข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง การแสดงพระธรรมของพระองค์นั้น ไม่ได้ทรงมุ่งหวังสิ่งอื่นเลย แต่ทรงแสดงพระธรรมเพื่อให้ผู้ฟังได้เข้าใจถูกเห็นถูก เท่านั้น พระอริยสงฆ์สาวก ประกาศพระธรรมคำสอนตามที่พระองค์ทรงแสดง ก็เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่นเลย เช่นเดียวกัน การแสดงธรรม หรือ การกล่าวธรรม รวมไปถึงการสนทนาธรรม ด้วย ทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น ไม่ใช่เพื่อลาภ สักการะ สรรเสริญ ไม่ใช่เพื่อโต้เถียงหรือแข่งกันว่าใครจะเก่งกว่ากัน เป็นต้น แต่เพื่อประโยชน์สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้รับฟังเป็นสำคัญที่จะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ได้ฟัง อันเป็นความจริง เป็นสิ่งที่มีจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง ถ้ากล่าวธรรม ด้วยการตั้งจิตไว้ไม่ชอบ ซึ่งก็คือ ตั้งจิตไว้ผิด (เป็นอกุศล) ย่อมไม่บริสุทธิ์เลย เป็นการเพิ่มอกุศลให้กับตนเองมากยิ่งขึ้น ขึ้นชื่อว่าอกุศลแล้ว ไม่ดีเลย โดยประการทั้งปวง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...