สวดมนต์ทุกเช้าค่ำ
โดย Guest  11 ส.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 4518

หมั่นสวดมนต์ทุกเช้าค่ำ แต่กลับรู้สึกว่า ตัวเองยังเข้าไม่ถึงพระรัตนตรัย ไม่อิ่มเอ็มเท่าที่ควร ทั้งที่ปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่ต้องวิตกก็ไม่มี ไม่ทราบจะแก้ไขอย่างไร ช่วยแนะนำด้วยค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 11 ส.ค. 2550

การจะเข้าถึงพระรัตนตรัย ท่านต้องมีความเข้าใจว่า พระรัตนตรัยมีพระคุณอย่างไร การสวดมนต์ถ้าขาดความเข้าใจแล้ว ย่อมไม่เข้าถึงอรรถสาระในบทสวดเลยค่ะ ควรศึกษาพระธรรม พระพุทธประวัติ อดีตชาติของพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระมหาสาวก ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้ท่านซาบซึ้งในพระคุณของพระรัตนตรัยมากยิ่งขึ้น ตามความเข้าใจและปัญญาที่พัฒนาขึ้นไปตามลำดับ

ทั้งยังเกื้อกูลต่อการเจริญ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจ ให้อาจหาญ ร่าเริงในการเจริญกุศลและอบรมสร้างสมบารมี ให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 3    โดย Guest  วันที่ 12 ส.ค. 2550
ขอบพระคุณยิ่งที่เมตตา ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 4    โดย ajarnkruo  วันที่ 12 ส.ค. 2550

ปุถุชนอย่างเรายังมีศรัทธาที่คลอนแคลน ไม่มั่นคงอย่างพระอริยสาวก เช่น พระโสดาบัน เรายังมีกิเลสหนา มีความอยาก มีความสำคัญตนมากอยู่ จึงไม่อาจน้อมเข้าหาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้เต็มตัว ความซาบซึ้งในพระธรรมก็เกิดเมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมในบางขณะเท่านั้น ไม่ได้เกิดบ่อยอย่างใจต้องการ แต่เราสั่งสมอุปนิสัยในการฟังพระธรรมและกระทำกุศลทุกประการอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปได้ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 5    โดย wannee.s  วันที่ 12 ส.ค. 2550

การสวดมนต์สรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เป็นสิ่งที่ดีที่เกิดจากจิตที่เป็นกุศล แต่จะเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา หรือไม่ประกอบด้วยปัญญา ก็อยู่ที่ความเข้าใจของคนสวดว่า สวดเพื่อระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย หรือสวดเพื่อต้องการให้คุ้มครองตนเอง และการที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัย ไม่ใช่เพราะสวดมนต์ค่ะ แต่ต้องเข้าถึงด้วยการฟังธรรมแล้วนอมประพฤติปฏิบัตธรรมค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย Guest  วันที่ 12 ส.ค. 2550

อนุโมทนา สาธุ สาธุ


ความคิดเห็น 7    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 12 ส.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

แก้ไข ด้วยการฟังพระธรรม การเข้าถึงหรือการรู้พระคุณของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์นั้น ต้องด้วยปัญญา ไม่ใช่เราที่พยายามที่จะเข้าถึงด้วยการสวด ถ้าไม่มีปัญญาอันเกิดจากการฟังพระธรรม ธรรมที่ทำหน้าที่เข้าถึงคือ ปัญญา ไม่เกิด ก็ไม่มี ทางเข้าถึงคือรู้พระคุณของพระรัตนตรัยได้เลย ดังนั้นจึงควรพิจารณาเสียใหม่ว่า สวดเพื่ออะไร สวดเพื่อให้เกิดปิติ หรือว่าเพื่อน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และการจะรู้ คุณก็ด้วยการศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อขณะที่เข้าใจและซาบซึ้งในพระธรรม ย่อมเป็นปัจจัยให้ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า โดยขณะนั้นไม่ต้องสวดเป็นคำบาลี เพราะบุญอยู่ที่จิตไม่ใช่ที่คำสวดบาลีครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 8    โดย แวะเข้ามา  วันที่ 13 ส.ค. 2550

การสวดมนต์เพื่อเป็นการสรรเสริญพระคุณ ก็เป็นการแสดงความกตัญญูอย่างหนึ่ง แต่ต้องทำด้วยความเข้าใจ


ความคิดเห็น 9    โดย natnicha  วันที่ 14 ส.ค. 2550

โดยส่วนตัว สวดมนต์มาหลายปีแล้วแต่ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่สวดมากนัก เพราะที่วัดพระท่านก็ไม่ได้อธิบายอะไร จนกระทั่งได้มาฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์ เมื่อกลับไปสวดอีกก็เข้าใจความหมายในบทสวดมากยิ่งขึ้น ทำให้ระลึกถึงธรรมะที่ท่านอาจารย์ได้เคยบรรยายไว้ตัวอย่างเช่น บทสวดที่ว่า "เรามีกรรมเป็นกำเนิด เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราจักทำกรรมอันใดไว้ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น" ถ้าเราพิจารณาดีๆ ก็จะทราบว่าไม่มีเจ้ากรรมนายเวรจริงอย่างที่ท่านอาจารย์สุจินต์ได้เคยสอน และอธิบายไว้ ทั้งที่สวดมนต์มาหลายปีแต่ก็ไม่เคยระลึกถึง


ความคิดเห็น 10    โดย olive  วันที่ 14 ส.ค. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 11    โดย chatchai.k  วันที่ 2 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 2 มิ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกลและกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม ...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)


ความคิดเห็น 13    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 17 ส.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ