[เล่มที่ 79] พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา-บุคคลบัญญัติ เล่ม ๓ หน้า 241
อรรถกถาอันตราปรินิพพายีบุคคล
วินิจฉัยในนิเทศแห่งพระอนาคามี ผู้ชื่อว่า อันตราปรินิพพายีบุคคล คําว่า "อุปฺปนฺนํ วา สมนนฺตรา" ความว่า เป็นกาลติดต่อกัน กับการเกิดขึ้นบ้าง คําว่า "อปฺปตฺตํ วา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณํ" ความว่า ยังไม่ถึงประมาณท่ามกลางอายุบ้าง อธิบายว่า ยังไม่ถึงท่ามกลางอายุ ท่านย่อม ยังอริยมรรคให้เกิดขึ้นแล้ว แล้วปรินิพพาน ก็เนื้อความว่า "เวมชฺฌํ ปตฺตํ" แปลว่า ถึงท่ามกลางบ้าง บัณฑิตพึงทราบโดยการกําหนดด้วย "วา" ศัพท์
พระอนาคามีผู้อันตรายปรินิพพายี ๓ จําพวก เป็นอันสําเร็จแล้วด้วยประการ ฉะนี้ คําว่า "อุปริฏฺฐิมานํ สญฺโชนานํ" ได้แก่ อุทฺธัมภาคิยสังโยชน์ ๕ เบื้องบน หรือ ได้แก่ กิเลส ๘
บทว่า "ปหานาย" ได้แก่ ยังมรรค ให้เกิดขึ้นเพื่อต้องการละสังโยชน์เหล่านั้น สองบทว่า "อยํ วุจฺจติ" ความว่า บุคคลนี้ คือ ผู้เห็นปานนี้ ท่านเรียกว่า อันตรายปรินิพพายี เพราะปรินิพพานในระหว่างท่ามกลางแห่งอายุนั่นเทียว
จบอรรถกถา อันตราปรินิพพายีบุคคล
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 379
บทว่า ชีวิตา โวโรเปสิ ความว่า แม่โคลูกอ่อนหมุนไปวิ่งมา ขวิดกุลบุตรนั้น ผู้กำลังแลดูเศษผ้าในกองขยะแห่งหนึ่ง ให้กระเด็นขึ้นถึงความตาย กุลบุตรผู้ถูกความหิวครอบงำ ถึงความสิ้นอายุในอากาศนั่นเทียว ตกลงมานอนคว่ำหน้าในที่กองขยะ เป็นเหมือนรูปทองคำฉะนั้น ก็แลทำกาละแล้วไปเกิดในพรหมโลกชั้นอวิหา พอเกิดแล้วก็บรรลุพระอรหัต ได้ยินว่า ชนที่สักว่าเกิดแล้วในอวิหาพรหมโลกมี ๗ คน ได้บรรลุพระอรหัต สมจริงดังคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า ภิกษุ รูป เข้าถึงอวิหาพรหมโลก แล้ว หลุดพ้น มีราคะและโทสะสิ้นแล้ว ข้ามตัณหาในโลก และท่านเหล่านั้น ข้าม เปลือกตม บ่วงมัจจุราช ซึ่งข้ามได้แสน ยาก ท่านเหล่านั้นละโยคะ ของมนุษย์ แล้ว เข้าถึงโยคะอันเป็นทิพย์ ท่านเหล่านั้น คือ อุปกะ ๑ ปลคัณฑะ ๑ ปุกกุสาติ ๑ รวม ๓ ภัททิยะ ๑ ขันฑเทวะ ๑ พาหุทัตติ ๑ ปิงคิยะ ๑ ท่านเหล่านั้น ละโยคะของมนุษย์แล้ว เข้าถึงโยคะอันเป็นทิพย์ ดังนี้
จากข้อความในอรรถกถาธาตุวิภังคสูตรกล่าวว่าท่านเกิดในชั้นอวิหา และปรินิพพานที่นั่น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น