นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
พระสูตรที่จะนำมาสนทนาออนไลน์
วันเสาร์ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๓
คือ
สุปุพพัณหสูตร
...จาก...
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๕๙๑
๑๐. สุปุพพัณหสูตร
(ว่าด้วยเวลาที่เป็นฤกษ์ดี)
[๕๙๕] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใด ประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้านั้น ก็เป็นเวลาดี ของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใด ประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลากลางวัน เวลากลางวันนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น.
กายกรรม เป็นความเจริญ วาจากรรม เป็นความเจริญ มโนกรรม เป็นความเจริญ ความตั้งใจมั่น ของท่าน เป็นความเจริญ เป็นฤกษ์ดี มงคลดี แจ้งดี รุ่งดี ขณะดี ครู่ดี และเป็นการบูชาอย่างดีในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย คนทำกรรม อันเป็นความเจริญแล้ว ย่อมได้ประโยชน์อันเป็นความเจริญ ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้มีประโยชน์อันได้แล้ว ถึงซึ่งความสุข งอกงามในพระพุทธศาสนา เป็นผู้หาโรคมิได้ สำราญกายใจ พร้อมด้วยญาติทั้งปวงเทอญ.
จบสุปุพพัณหสูตรที่ ๑๐
อรรถกถาสุปุพพัณหสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในสุปุพพัณหสูตรที่ ๑๐ ดังต่อไปนี้ :-
ในคำเป็นต้นว่า สุนกฺขตฺตํ วันที่คนทั้งหลาย บำเพ็ญสุจริตธรรมทั้ง ๓ ให้บริบูรณ์ ชื่อว่าเป็นวันที่ได้การประกอบฤกษ์ เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า วันนั้น มีฤกษ์ดีทุกเมื่อ วันนั้นนั่นแหละ ชื่อว่า เป็นวันทำมงคลแล้ว เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า วันนั้นมีมงคลดีทุกเมื่อ แม้วันที่มีความสว่างไสวทั้งวัน จึงชื่อว่า สุปฺปภาตเมว (มีความสว่างไสวเป็นประจำ) แม้การลุกขึ้นจากการนอนของวันนั้น ก็ชื่อว่า สุหุฏฺฐิตํ (ลุกขึ้นด้วยดี) แม้ขณะของวันนั้น ก็ชื่อว่า สุกฺขโณ (ขณะดี) แม้ยามของวันนั้น ก็ชื่อว่า สุมุหุตฺโต (ยามดี)
ก็ในบทว่า สุมุหุตฺโต นี้ พึงทราบการแบ่งเวลาดังนี้ .- เวลาประมาณ ๑๐ นิ้ว ชื่อว่า ขณะ เวลา ๑๐ ขณะ โดยขณะนั้น ชื่อว่า ลยะ เวลา ๑๐ ลยะ โดย ลยะนั้น ชื่อว่า ขณลยะ เวลา ๑๐ เท่า โดยขณลยะนั้น ชื่อว่า มุหุตฺตะ เวลา ๑๐ เท่า โดยมุหุตตะนั้น ชื่อว่า ขณมุหุตฺตะ
บทว่า สุยิฏฺฐํ พฺรหฺมจาริสุ ความว่า ทานที่เขาให้ในผู้ประพฤติธรรมอันประเสริฐ ในวันที่บำเพ็ญสุจริต ๓ ให้บริบูรณ์แล้ว ชื่อว่า สุยิฏฺฐํ (มีการบูชาดีแล้ว)
บทว่า ปทกฺขิณํ กายกมฺมํ ความว่า กายกรรมที่เขาทำแล้วในวันนั้น ชื่อว่า เป็นกายกรรม ประกอบด้วยความเจริญ. แม้ในบทที่เหลือ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน
บทว่า ปทกฺขิณานิ กตฺวาน ความว่า ครั้นการทำกายกรรมเป็นต้น ที่ประกอบด้วยความเจริญแล้ว
บทว่า ลภนฺตตฺเถ ปทกฺขิเณ ความว่า จะได้ประโยชน์ที่เป็นความเจริญ คือประโยชน์ที่ประกอบด้วยความเจริญนั่นเอง
ข้อความที่เหลือในพระสูตรนี้ ง่ายทั้งนั้น ฉะนี้แล
จบอรรถกถาสุปุพพัณหสูตรที่ ๑๐
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความโดยสรุป
สุปุพพัณหสูตร
(ว่าด้วยเวลาที่เป็นฤกษ์ดี)
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า สัตว์ที่ประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ ไม่ว่าจะเป็นในเวลาใดก็ตาม ทั้งเวลาเช้า เวลากลางวัน และเวลาเย็น เวลานั้นๆ ก็ย่อมเป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น.
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
ว่าด้วยเวลาที่เป็นฤกษ์ดี
การทำนายดวง
ชื่อ มีไว้สำหรับเรียกกัน
ชีวิตที่มีค่า คือ มีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ และได้ฟังพระธรรมให้เข้าใจ
คุณของธรรมฝ่ายดี และโทษของธรรมฝ่ายชั่ว
ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1590
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
กราบอนุโมทนายิ่งค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ