ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
มิจฉาสมาธิ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ตามความเป็นจริงแล้ว สมาธิ (เอกัคคตาเจตสิก) เกิดกับจิตทุกขณะไม่มีมีเว้น ดังนั้น สมาธิ ที่เป็นอกุศล ก็มี สมาธิที่เป็นกุศล ก็มี ถ้าหากว่าจิตในขณะนั้นเป็นอกุศล สมาธิก็เป็นอกุศลสมาธิหรือมิจฉาสมาธิ จะบอกว่า อกุศล ถูก อกุศล ดี ไม่ได้ เพราะความจริง เป็นความจริง
การไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ด้วยความเป็นตัวตนจดจ้องสิ่งหนึ่งสิ่งใด นั่นเป็นไปด้วยอำนาจของอกุศลจิต สมาธิในขณะนั้นเป็นมิจฉาสมาธิ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ขึ้นชื่อว่าอกุศลทุกประการแล้ว ไม่สามารถทำให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ใดๆ เลย ดังนั้น อกุศลสมาธิ หรือ มิจฉาสมาธิ จะเป็นอัปปนาสมาธิ เป็นไปไม่ได้ เพราะที่จะถึงความสงบของจิตแนบแน่นเป็นฌานจิตขั้นต่างๆ นั้น เป็นการอบรมเจริญสมถภาวนา ซึ่งสมาธิที่เป็นไปนั้น ก็เป็นสัมมาสมาธิ ไม่ใช่มิจฉาสมาธิ ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุญาตเรียนถามอาจารย์เพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นครับ
ตามที่อาจารย์กล่าวตอบข้างต้น ในกรณีฤาษีนักพรตนอกศาสนา จะมีสมาธิที่จะเป็นสัมมาสมาธิไม่ได้ เพราะไม่ได้ฟังพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ แต่เหตุใดบางคนถึงที่ได้ฌานะระดับที่มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ได้ครับ
เรียน ความคิดเห็นที่ ๓ ครับ
จากการที่ท่านเหล่านั้นได้ฌานขั้นต่างๆ ก็เป็นเพราะว่าได้อบรมเจริญสมถภาวนา เป็นผู้มีปัญญาเห็นความต่างกันของกุศลกับอกุศล และรู้สิ่งที่จะเป็นเหตุทำให้จิตสงบจากอกุศล ซึ่งก็ต้องเป็นผู้มีปัญญา และ สมาธิที่เกิดร่วมกับกุศลจิตขณะนั้น ก็เป็นสัมมาสมาธิ ไม่ใช่มิจฉาสมาธิ ซึ่งตัวอย่างก็มีมากมายที่ปรากฏในชาดกต่างๆ เช่น พระโพธิสัตว์ ออกบวชเป็นดาบส ได้ฌานแล้วไปเกิดในพรหมโลก เป็นต้น ครับ
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
สมถภาวนา
สมถภาวนา มีแนวทางปฏิบัติ เพื่อความถูกต้องอย่างไร
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
กราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ให้ความกระจ่างครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ