ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประมวลสาระสำคัญจากการสนทนาธรรม
ที่อาคารเอนกประสงค์
เทศบาลเมืองอ่างศิลา ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี
วันพฤหัสบดีที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๓
(ภาพขณะสนทนาธรรมโดยคุณวันชัย ภู่งาม)
~ สำหรับผู้ที่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะประเสริฐเท่ากับมีโอกาสได้ฟังคำของพระองค์ที่ตรัสไว้ดีแล้ว หายากมากบุคคลผู้เป็นเลิศสูงสุดที่เป็นที่เคารพสูงสุดทั้งในโลกนี้ ในสวรรค์เทวโลกและในโลกอื่นด้วย แต่ถ้าเราไม่สามารถที่จะเข้าใจคำของพระองค์ จะไม่เห็นค่าเลย แต่พอเข้าใจคำแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เริ่มรู้จักพระคุณของพระองค์
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ว่าจะดับขันธปรินิพพาน [ตายอย่างไม่มีการเกิดอีก] ไม่เหลือแล้ว แต่คำที่พระองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้วทั้งหมด ยังครบถ้วนสำหรับผู้ที่ฟังด้วยความเคารพ เพื่อความเข้าใจ
~ ทุกครั้งที่ฟังธรรม ไม่ได้เพื่อลาภ ไม่ได้เพื่อยศ ไม่ได้เพื่อความสุขเล็กๆ น้อยๆ หรือจะมากมายสักเท่าไหร่ทุกอย่างก็หมดสิ้นไป แต่ความเห็นถูกความเข้าใจถูกซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยสามารถที่จะติดตามไป ทรัพย์สมบัติติดตามไปไม่ได้เลย อย่างที่มีคนบอกว่า ย้ายบ้านเราขนของไปได้หมด ใช่ไหม? แต่ย้ายภพ ย้ายชาติ ไม่มีสิ่งใดที่จะติดตามไปได้เลย นอกจากสิ่งที่สะสมไว้ในชาตินี้ ดี ชั่ว ในชาตินี้ ไม่ได้สูญหายไป แต่สะสมพร้อมที่จะให้ผลในขณะต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้ง ต้องศึกษาทุกคำ
~ ดูเหมือนว่าทุกคนรู้จักพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง (ซึ่งนั่น) ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย แล้วก็เข้าใจว่าสิ่งต่างๆ เหล่านั้นจะสามารถดลบันดาลทุกสิ่งให้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะเป็นไปได้เลย ต้องเป็นผู้ที่ไม่เชื่อง่าย ไม่หลงเชื่อ แต่คิดถึงเหตุผล ว่า เพียงแค่ตะกั่วหรืออะไรก็ตามแต่ที่นำมาใช้ทำเป็นเครื่องรางของขลังต่างๆ แล้วจะนับถือได้อย่างไร ใครสามารถที่จะดลบันดาลให้สิ่งนั้นมาคุ้มครองป้องกันหรือมาให้ลาภให้ยศได้? เป็นสิ่งที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลเลย ไม่เป็นสาระคือไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย แต่ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คิดว่าสิ่งต่างๆ เหล่านั้นสามารถที่จะคุ้มครองได้ ไม่คิดถึงความดีความชั่วเลย ว่า อะไรกันแน่ เป็นเหตุและเป็นผล
~ การสนทนาธรรม จะนำมาซึ่งการที่เราเคยเข้าใจอย่างไร ลองพิจารณา ว่า สิ่งที่เราเคยคิดเคยเข้าใจมาแล้วนั้น ผิดหรือถูกประการใด เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเชื่อในความคิดของเราหรือในความคิดของคนอื่น แต่ตรงตามความเป็นจริง จึงสมควรที่จะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างนั้น
~ เป็นคนตรงตั้งแต่ต้น ถ้าเราจะเคารพใคร เราเคารพคนชั่วหรือคนดี ตรงไหม ไม่ว่าเขาจะเป็นใครทั้งสิ้น แต่ไม่มีใครเคารพความชั่ว ไม่ว่าจะเป็นใครที่ไหนเมื่อไหร่
~ ความไม่รู้ปิดกั้นมานานแสนนาน จึงทำให้เกิดความโลภ ความโกรธ เหตุการณ์ต่างๆ ปัญหาต่างๆ มากมาย เพราะความไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร สิ่งที่ไม่ดีจะดีไม่ได้ สิ่งที่ผิดจะถูกไม่ได้ ต้องเป็นคนที่ตรงกว่าจะรู้ความจริงอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงเพื่อเป็นหนทางให้เราได้รู้ความจริงอย่างนั้นด้วย จึงเป็นสาวก (ผู้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) เป็นพุทธบริษัทที่เห็นคุณของการที่ได้เข้าใจสิ่งที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาตรัสรู้ให้เราได้รู้ตามด้วย เพราะเราไม่สามารถที่จะรู้เองได้
~ ใครก็ตามที่กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะรู้คุณของพระองค์ เพราะเข้าใจคำที่พระองค์ได้ทรงแสดงไว้ เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ว่านับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต่อเมื่อได้เข้าใจคำที่พระองค์ตรัสจริงๆ เห็นคุณค่าจริงๆ เป็นชาวพุทธ
~ ต้องมั่นคงด้วย ไม่มีเรา เพราะอะไร? เห็นเป็นเห็น ได้ยินเป็นได้ยิน คิดเป็นคิด ชอบเป็นชอบทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่งซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้ กำลังโกรธจะเปลี่ยนโกรธให้เป็นพอใจยินดีเป็นสุข ก็ไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น แล้วก็ไม่มีใครไปทำเลย แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงเหตุปัจจัยครบถ้วนทุกประการในทุกคำของพระองค์ว่าสิ่งนั้นๆ เกิดขึ้นเพราะอะไรแล้วก็เป็นอะไร อาศัยกันและกันเกิดขึ้นอย่างไร
~ การที่เราสนทนาธรรม จะรู้ได้เลยว่าใครเป็นมิตรที่ดี มิตรที่ดีไม่ให้สิ่งที่ผิดแต่ให้สิ่งที่ตรงและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่สำคัญว่าใครจะรักจะชังจะโกรธจะติเตียนอย่างไรก็ตาม แต่คำจริงมาจากความหวังดีที่จะให้คนอื่นเข้าใจถูกต้องด้วย เพราะฉะนั้น ชาวพุทธมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นแบบอย่าง ในสมัยของพระองค์ก็มีผู้ที่กล่าวติเตียนพระองค์หลายคน แต่ไม่เดือดร้อนเลยเพราะสงบอย่างยิ่งจากอกุศล และก็มีความหวังดีเป็นยอดกัลยาณมิตร ไม่มีใครมีความหวังดีเป็นมิตรเสมอกับพระองค์ได้ เพราะให้ทุกอย่างที่จะเป็นประโยชน์กับคนฟัง แล้วก็ด้วยพระมหากรุณาที่แม้เขาจะอยู่แสนไกล พระองค์ก็เสด็จไป เพราะรู้ว่าคนนี้ฟังแล้วสามารถเข้าใจธรรมได้
~ ถ้าเราทำความดีขณะใด ขณะนั้นใจไม่เดือดร้อน เป็นสุขตั้งแต่ขณะที่ทำ เพราะฉะนั้น ผลที่ตามมา ก็เป็นคนที่ไม่เดือดร้อน เพราะไม่ได้หวังอะไรจากการกระทำสิ่งนั้น แต่ทำเพราะเหตุว่า เป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่งที่จะทำ เป็นประโยชน์
~ ขณะใดก็ตาม ระลึกได้ว่าสิ่งนั้นไม่ควร ก็ไม่ทำ งดเว้นเสียตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นไป แล้วก็จะมีแต่คุณความดี ไม่ต้องไปขอใครเลยทั้งสิ้น เพราะเขาให้ไม่ได้ คนตาบอดไปขอให้ตาดี ใครจะทำให้ตาดีได้ ใครจะเอาตาดีมาให้ได้? แต่ตาเขาบอดเพราะอะไร? เพราะกรรมที่ได้กระทำแล้ว
~ ถ้าลูกเป็นคนดี แล้วไม่บวช กับ เป็นคนไม่ดี แล้วบวช แม่อยากให้เป็นอย่างไหน?
~ ใครจะบวชต้องเป็นคนตรง ไม่ใช่ว่าไม่รู้จะทำอะไรก็บวช ไม่มีงานทำก็บวช บวชแล้วก็ไม่ได้ศึกษาอะไรเลย ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย ตื่นเช้า ก็บิณฑบาต มีคนไหว้ด้วย แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไปอีก แล้วก็มีแต่คนกราบไหว้ แล้ว ณ ขณะนี้ยุคนี้ก็ให้เงินให้ทองอีก แล้วบวชคืออะไรอย่างนั้น? ต้องเป็นคนที่ตรงมาก เพราะฉะนั้น (ที่จะบวชจริงๆ) ต้องเป็นคนที่เข้าใจธรรมแล้วก็สละชีวิตคฤหัสถ์เพื่อดำเนินรอยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประพฤติอย่างไร เขาประพฤติตามอย่างนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้รับเงินทองแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีกหลายอย่างที่ทำกันในขณะนี้
~ คนที่ตาย จะเป็นคนนี้อีกต่อไปไม่ได้สักขณะเดียว ไปอ้อนวอนขอร้องบอกแพทย์อย่างไรๆ ก็ไม่มีทาง (ที่จะทำให้ไม่ตายได้) เพราะเมื่อถึงเวลาที่ความตายจะเกิดขึ้น ยับยั้งไม่ได้ ตายทันที และไม่กลับมาเป็นคนนี้อีกต่อไป
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง เป็นธรรมทั้งหมด และพระธรรมที่ทรงแสดงจากการที่ตรัสรู้ จึงใช้คำว่าพระธรรม เพราะว่ากล่าวถึงสิ่งที่มีจริงให้คนอื่นได้เข้าใจ เพราะฉะนั้น ฟังธรรม ก็คือ ฟังสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ให้เข้าใจถูกต้องว่าเป็นธรรมซึ่งเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเป็นธรรมดาและทั้งหมดไม่ใช่เรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง
~ มีคนชวนไปสำนักปฏิบัติ กับ มีคนบอกให้ไปฟังธรรม (ฟังธรรม ไม่ใช่ฟังอย่างอื่น) จะไปไหน? เพราะฟังธรรมแล้วเข้าใจสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจซึ่งกำลังมีเดี๋ยวนี้ได้แน่นอนมั่นคง กับ ไปสำนักปฏิบัติ ไม่พูดไม่จา แล้วพอถึงตอนเย็นก็ไปเล่าว่าวันนี้คิดอะไรให้คนอื่นฟัง ความเข้าใจอยู่ที่ไหน? เข้าใจอะไร? อะไรเป็นธรรม ก็ไม่รู้ ใช่ไหม? เพราะฉะนั้น ทุกคำที่ทำให้ไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอน
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของคุณเชษฐ์สุดา สเตเฟ่นส์
(รองปลัดเทศบาล รักษาราชการแทนปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา)
ที่จัดให้มีการสนทนาธรรมในครั้งนี้
และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านด้วยครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
รู้ยาก แต่ รู้ได้
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
ชาตินี้ได้ฟังคำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งในสังสารวัฏฏ์ แต่ผู้ใดได้โอกาสนั้นแล้ว เพราะเหตุที่สะสมมา และสะสมเหตุแห่งปัญญาคือความเห็นที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นต่อๆ ไป
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลอาจารย์ คำปั่น อักษรวิลัย และวิทยากรทุกท่าน
อนุโมทนากับผู้ร่วมสนทนาธรรมทุกท่านด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ