[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 443
เมื่อเศรษฐีบุตรนั้นหลบไปแล้ว นางสิริมาซึ่งยืนอยู่ในที่ใกล้ของเขาคิดว่า
"เศรษฐีบุตรนั่นมองดูอะไรหนอแล จึงหัวเราะ" จึงมองลงไปทางหน้าต่างนั้นแหละ เห็นนางอุตตราแล้วคิดว่า "เศรษฐีบุตรนี้หัวเราะ ก็เพราะเห็นนางคนนี้ ความชิดชมของเศรษฐีบุตรนี้คงมีกับด้วยนางนี้เป็นแน่" นางสิริมาหึงนางอุตตรา เอาเนยใสเดือดรด ได้ยินว่า นางสิริมานั้นแม้อยู่เป็นพาหิรกสตรีในเรือนนั้นตลอดกึ่งเดือน เสวยสมบัตินั้นอยู่ ก็ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นหญิงภายนอก ได้ทำความสำคัญว่า "ตัวเป็นแม่เจ้าเรือน" นางผูกอาฆาตต่อนางอุตตราว่า "จักต้องยังทุกข์ให้เกิดแก่มัน" จึงลงจากปราสาทเข้าไปสู่โรงครัวใหญ่ เอาทัพพีตักเนยใสอันเดือดพล่านในที่ทอดขนม แล้วก็เดินมุ่งหน้าตรงไปหานางอุตตรา นางอุตตราเห็นนางสิริมาเดินมา จึงแผ่เมตตาไปถึงนางว่า "หญิงสหายของเราทำอุปการะแก่เรามาก จักรวาลก็แคบเกินไป พรหมโลกก็ต่ำนัก ส่วนคุณของหญิงสหายเราใหญ่มาก ก็เราอาศัยนางนั่น จึงได้เพื่อถวายทานและฟังธรรม ถ้าเรามีความโกรธเหนือนางสิริมานั้น เนยใส นี้ จงลวกเราเถิด ถ้าไม่มี อย่าลวกเลย" เนยใสซึ่งเดือดพล่านที่นางสิริมานั้นรดลงเบื้องบนนางอุตตรานั้น ได้เป็นเหมือนน้ำเย็น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น