เครื่องกั้น
โดย nattawan  22 มิ.ย. 2567
หัวข้อหมายเลข 47942

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ใครก็ตามที่ไม่ได้สะสมศรัทธาและฉันทะมาที่จะรู้และเข้าใจความจริงในสิ่งที่กำลังปรากฎในขณะนี้ ก็จะไม่ฟังและศึกษาพระธรรม ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะทั้งหมดคือความเป็นธรรมดา แต่ถ้าได้ศึกษาและสะสมมาที่จะเข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ศึกษาพระธรรมแล้วก็จะมีความตั้งมั่นเกิดขึ้น

การศึกษาธรรมะเพื่อให้เข้าใจความจริงว่าไม่ทีใครสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย เพราะมีเพียงสิ่งที่มีจริง ไม่ใช่เรา รู้อย่างนี้จึงมีปัญญาที่จะอบรมและสะสมเพื่อให้เกิดความรู้แจ้งในอริยสัจธรรม

เพียงแค่ไม่ฟังธรรมก็เป็นเครื่องกั้นแล้ว

ทั้งหมดคือธรรมดาที่กำลังปรากฏขณะนี้ เป็นธรรมะ เป็นอนัตตา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

คนที่ประมาทในการเจริญสติ วันหนึ่งๆ ชีวิตก็ผ่านไป ด้วยการที่เพลิดเพลินไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หลงยึดถือเป็นไปกับการเป็นตัวตน แต่ว่าผู้ที่เห็นโทษเห็นภัย ย่อมระลึกได้

สติอาจจะเกิดน้อยในตอนต้น อาจจะวันละนิดวันละหน่อย ก็ยังดีกว่าที่สติไม่เคยเกิดเลย ไม่เคยพิจารณาลักษณะของนามและรูปเลย

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 74

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

ธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อผู้ใดศึกษาเข้าใจและปฏิบัติ ก็ย่อมจะทำให้คลายความทุกข์ คลายความกังวลได้ ไม่ว่าจะอยู่ในที่ใด เป็นผู้ที่ไม่เหงา เป็นผู้ที่ไม่ตรึกไปในสิ่งที่ไร้สาระ แต่ว่ามีสติพิจารณาธรรม พร้อมกันนั้น เมื่อได้ความเข้าใจแล้ว ก็ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังปรากฏ

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 73

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

คุณของสติ คือ การระลึกได้ มีอุปการะที่ว่า ถ้าผู้ใดเจริญสติเนืองๆ บ่อยๆ เวลาที่สติเกิดขึ้น ก็สามารถที่จะเป็นผู้ที่ละอกุศลธรรมในขณะนั้น ตามขั้นของสติ

ถ้าเป็นผู้ที่เจริญสติปัฏฐานเนืองๆ บ่อยๆ เวลาที่อกุศลธรรมนั้นๆ เกิดขึ้น สติก็ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปในขณะนั้น แล้วก็ถึงที่ดับของกิเลสได้แน่นอน

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 72

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 4    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

พระธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้น ไม่ใช่ทรงแสดงไว้สำหรับให้ผู้ได้ยินได้ฟัง ไปคิดถึงคนอื่น แต่ว่าสำหรับสอนตนเอง

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 72

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 5    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

เวลาที่โกรธ บางคนก็หมดไปโดยง่าย แต่ว่าบางคนยังผูกโกรธ คือ ความโกรธนั้นรัดรึงใจไว้บ่อยๆ เดี๋ยวนึกขึ้นมาก็โกรธอีกแล้ว เดี๋ยวก็โกรธ ทำไมเรื่องนั้นนิดเดียว แต่โกรธต่อไปอีกได้ตั้งนาน นั่นเป็นความผูกโกรธ แต่ว่า ผู้มีสติ ระลึกได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้น สติเป็นสิ่งที่มีอุปการะคุณมาก ไม่ได้เป็นโทษเป็นภัยอะไรเลย

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 72

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 6    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

ขณะนี้ มีนามมีรูป ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ท่านผู้ใด ปรารภความเพียร รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏบ้าง

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 71

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 7    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

สังขารธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง จึงเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน ความเกิดและดับไปของสังขารธรรม เป็นสิ่งที่ท่านจะต้องทราบด้วยปัญญาที่ได้อบรมให้เจริญขึ้น แล้วก็ได้ประจักษ์ความจริงว่า ความไม่เที่ยงของสภาพธรรมทั้งหลายนั้นแหละเป็นทุกข์

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 71

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 8    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

ไม่ต้องให้ใครเอารูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ มาให้ ใจของแต่ละคนที่ยังมีกิเลส มีความต้องการในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นั้นเอง

เพราะฉะนั้น การละ ก็ต้องละด้วยการเจริญปัญญา รู้ลักษณะของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ตามความเป็นจริง จึงจะละได้ ไม่ใชีเพียงคิดละเท่านั้น

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 71

www.dhammahome.com


ความคิดเห็น 9    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

รู้หรือไม่ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ท่ามกลางทะเลโอฆะ


ความคิดเห็น 10    โดย nattawan  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

เห็นพระพุทธเจ้า ตามกำลังของปัญญา


ความคิดเห็น 11    โดย chatchai.k  วันที่ 22 มิ.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ