[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 662
เถราปทาน
ตุวรทายิวรรคที่ ๒๕
นาคเกสริยเถราปทานที่ ๒ (๒๔๒)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกบุนนาค
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 662
นาคเกสริยเถราปทานที่ ๒ (๒๔๒)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกบุนนาค
[๒๔๔] เราใส่ลูกธนูไว้ในแล่งแล้ว เข้าไปยังท่ามกลางป่า ได้ เห็นต้นบุนนาคมีดอกเป็นพวง อันขึ้นอยู่ใกล้ทางเดิน จึง ประคองด้วยมือทั้งสอง ประนมกรอัญชลีบนเศียรเกล้า บูชา แด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของโลก.
ในกัปที่ ๙๒ แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง พุทธบูชา.
ในกัปที่ ๗๗ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า สโมกขรณะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระนาคเกสริยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบนาคเกสริยเถราปทาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 663
๒๔๒. อรรถกถานาคเกสริยเถราปทาน
พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๒ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ธนุํ อเทฺวชฺฌํ กตฺวา ความว่า ใส่ลูกธนูเที่ยวไปเพื่อ ฆ่าสัตว์มีเนื้อเป็นต้น. บทว่า เกสรํ โอคตํ ทิสฺวา ความว่า เห็น ต้นบุนนาคที่ดอกบานสะพรั่งเป็นพวง. บทว่า พุทฺธสฺส อภิโรเปสึ ความว่า เรามีจิตเลื่อมใส ยกขึ้นบูชาแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า ติสสะ ผู้เสด็จไปถึงป่า.
จบอรรถกถานาคสริยเถราปทาน