กราบเรียนถามอาจารย์
จาก กามาวจรกุศลจิต ๘ ดวง คือ
ดวงที่ ๑ โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ
กุศลจิตเกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ประกอบด้วยปัญญา (ญาณสมฺป ยุตฺตํ) คือ มีปัญญาเจตสิก (อโมหะ) เกิดร่วมด้วยเป็นจิตมีกำลัง เกิดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยการชักจูง
การเกิดของจิตที่ไม่ต้องอาศัยการชักจูง : การชักจูงหมายถึงอะไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำว่า ไม่มีการชักจูง แสดงถึงสภาพของจิตที่มีกำลัง เมื่อจะมีการกระทำสิ่งใด ไม่ต้องมีการชักชวนด้วยกาย หรือวาจาของบุคคลอื่น หรือชักชวนด้วยใจของตนเอง เพราะสภาพจิตมีกำลังที่จะกระทำสิ่งนั้นๆ ด้วยความตั้งใจ ถ้าเป็นทางฝ่ายกุศล เช่น ตั้งใจที่ให้ทาน สละสิ่งของเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น ตั้งใจที่จะฟังพระธรรม เห็นประโยชน์ของการได้ฟังความจริง ก็ฟัง ก็ศึกษาด้วยความเคารพ เป็นต้น เป็นกุศลจิตที่เป็นอสังขาริก คือ มีกำลัง ไม่ต้องอาศัยการชักจูง ถ้าเป็นทางฝ่ายอกุศล ก็ตรงกันข้ามกันเลย มีกำลังกล้า เกิดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยการชักจูง เช่น อยากจะไปดูภาพยนตร์ ดูการละเล่นต่างๆ ก็ไปตามความต้องการนั้น เป็นต้น นี้เป็นตัวอย่างทางฝ่ายอกุศล
แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น สภาพธรรมก็หลากหลายมาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงไปตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ ลักษณะของสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ประโยชน์จึงอยู่ที่ความเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา แม้แต่จิตที่มีกำลังกล้า (อสังขาริก) ทั้งทางฝ่ายอกุศล และทางฝ่ายกุศล นั้น ก็เป็นธรรม ไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยจริงๆ ครับ
ขอเชิญคลิกศึกษาคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่นี่ครับ
สสังขาร
การจำแนกจิตโดยอสังขาร และ สสังขาร
มีกำลังอ่อนต้องอาศัยการชักจูง - มีกำลังกล้าไม่ต้องอาศัยการชักจูง
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์มากครับ
ขออนุโมทนาสาธุครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตครับ