ขอเชิญคลิกอ่านที่ ศึกษาธรรมทำไม?
ศึกษาไปเพื่ออะไร
นอกจาก การเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรสการกระทบสัมผัส และ การคิดนึกแล้ว.................ก็ไม่มี ทางอื่น ที่ "สติ" จะระลึกรู้ "ลักษณะ" ของสภาพธรรมตามปกติ ตามความเป็นจริง ในชีวิตประจำวันเพื่อ ความรู้ชัด ในสภาพธรรมต่างๆ ว่า เป็นอนัตตา...อย่างไร
.
ถ้าไม่ศึกษา..........ก็ไม่มีความรู้ (ปัญญา) ไม่มีความรู้...ก็ไม่สามารถพ้นทุกข์ได้ ค่ะ.
อนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ทำไม้ต้องศึกษาการเห็น...การคิดนึก เพราะสำคัญผิดในการเห็น การได้ยิน..การคิดนึก
ว่าเป็นเรา เป็นสัตว์บุคคลที่เห็น สำคัญผิดจากความเป็นจริง ดังนั้นการศึกษาก็คือ
ปัญญานั่นเองศึกษาความจริงแม้ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันว่าเห็นเป็นธรรมไม่ใช่เรา ได้ยิน
ได้กลิ่น คิดนึกเป็นธรรมไม่ใช่เรา หากไม่เข้าใจความจริงเช่นนี้ก็ไม่สามารถที่จะไถ่ถอน
ความเห็นผิดว่าเป็นสัตว์ บุคล ตัวตนได้ ก็ไม่สามารถดับกิเลสและพ้นทุกข์ได้เลย นี่คือ
เหตุผลที่ทำไมต้องศึกษา การเห็น.....การคิดนึกครับ ศึกษาเริ่มจากการฟังให้เข้าใจ
ปัญญาเจริญขึ้นย่อมรู้จัก เห็น..คิดนึกตามความเป็นจริงด้วยปัญญาว่าเป็นธรรมไม่ใช่
เราครับ ขออนุโมทนา อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ที่ทุกข์ก็เพราะมีตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ แต่ถ้าไม่มี มันก็ไม่ทุกข์
ที่จะหมดทุกข์ได้ ก็ต้องอาศัย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี้แหละเป็นโรงเรียน
จิตต้นจิตต้องรู้จิต จิตต้นจิตต้องรู้ทุกข์
การรู้จักคนอื่น ก็ไม่สู้รู้จักโลกของตัวเอง โลกคือสิ่งที่เกิดดับในขณะนี้เอง ต้องเข้าใจ
ลักษณะของสภาพธรรมะที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ขั้นต้นเพียงให้รู้ว่าเป็นธรรมะที่มีจริงๆ
เป็นขั้นศึกษา จุดประสงค์เพื่อขัดเกลากิเลส เพื่อละคลายความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
ด้วยเราทั้งคน โลกทั้งโลก จักรวาลทั้งจักรวาล
มีอยู่ที่หกประตูนี้
หากไม่ศึกษาให้รู้จัก และเข้าใจในหกเส้นทางนี้
เราก็ออกไปไหนไม่ได้
เป็นเรา
ติดอยู่ที่นี่ ตอนนี้
โดยไม่มีทางรู้อะไรได้เลย
อยู่กับความทุกข์ ทุกลมหายใจ
ตลอดไป