ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๕
โดย khampan.a  14 ก.พ. 2564
หัวข้อหมายเลข 33730

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๕ * *

~ ความไม่รู้ มาก ถ้าฟังเผิน ไม่ไตร่ตรอง จะเข้าใจพระธรรมผิดแน่นอน ตรงกับคำที่ว่า ถ้าศึกษาพระสูตรไม่ดี ก็ทำให้เข้าใจผิด
~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถที่จะทำให้ผู้ที่เห็นคุณในการที่จะเข้าใจจริงๆ พ้นจากบาปได้
~ แต่ละหนึ่งขณะที่มีความเข้าใจเกิดขึ้น มาจากไหน? และแต่ละคำที่พูดคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการทำดีต่อพระองค์หรือเปล่า? ทำดีต่อพ่อแม่ บรรพบุรุษ ทำกันเสมอ เหมือนกับว่าไม่ยากเลย เป็นเด็กดี เชื่อฟัง ทำทุกสิ่งทุกอย่างนำเกียรติยศชื่อเสียงมาให้ครอบครัว เหมือนเป็นความดี แต่ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้านำสิ่งซึ่งใครก็ให้ไม่ได้ นอกจากพระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีตรัสรู้เพื่อที่จะแสดงความจริงนี้ให้ทุกคนไม่เลือกเลย จนกระทั่งมาถึงเรา ณ บัดนี้ได้ มากกว่าบรรพบุรุษทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์หรือเปล่า? แล้วเราทำดีอะไรที่จะทำต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ถ้าเข้าใจ ทุกคำที่พูดคำจริง นั่นคือ ทำดีต่อพระองค์ กล่าวคำที่พระองค์ได้ตรัสแล้วเพื่อให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้องว่าความลึกซึ้งของแต่ละคำเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น ทุกคำที่พูดความจริงที่พระองค์ได้ทรงแสดงแล้ว เป็นการทำความดีต่อพระองค์ ถูกต้องไหม?
~ บางคนบอกว่าท่านเกิดมานานแล้ว นานพอแล้ว แต่ความจริงไม่พอ อย่างไรๆ ก็ไม่พอที่จะทำความดีและเข้าใจพระธรรม
~ ทุกท่านที่ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อที่จะเข้าใจพระธรรมและทำดี แทนที่จะไม่ดีด้วย
~ อย่างไรทุกคนก็ต้องจากโลกนี้ไป เพราะฉะนั้น อยู่ไปเพื่ออะไร อาจจะตายพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้น วันนี้ทำอะไรเท่าที่ยังอยู่ อาจจะตายเดือนหน้าก็ได้ เพราะฉะนั้น เดือนนี้ทำอะไรเท่าที่ยังอยู่
~ กัลยาณมิตร คือ เป็นผู้ที่หวังดีจริงๆ ไม่ว่าใครจะไม่ชอบ ใครจะชัง ใครจะเห็นอย่างไรก็ตาม แต่หยุดยั้งการที่จะกล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ เพราะเหตุว่าเป็นการระลึกถึงคุณและเป็นการบูชาคุณทุกคำพูดที่กล่าวถึงความจริงที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจด้วย
~ ขอให้มีความมั่นคงว่า พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำเป็นประโยชน์กับทุกคนในทุกชาติด้วย ไม่มีอะไรประเสริฐเท่ากับความเข้าใจพระธรรม
~ จุดประสงค์ของพวกเราทุกคน คือ เป็นมิตรที่ดี เป็นกัลยาณมิตรที่จะให้ทุกคนมีโอกาสได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ แล้วก็จะได้ยินได้ฟังต่อไปในทุกชาติ
~ ทำความดีทุกอย่างตามกำลัง เพื่อที่จะได้เข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ด้วยการศึกษาอย่างละเอียด อย่างรอบคอบ ไม่ประมาท ไม่ผิวเผิน เพราะผิด ง่ายมาก
~ ทำความดี ก็ไม่ใช่เรา อยากจะทำเยอะๆ ก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรา
~ ยากที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และเมื่อเกิดมาแล้วทุกคนต้องตาย แต่ก่อนตายควรที่จะได้เป็นคนดี ถ้าเข้าใจธรรม เป็นคนดีขึ้นแน่นอน ในชีวิตนี้สิ่งที่สะสมสืบต่อที่ประเสริฐอย่างยิ่ง คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูกที่จะนำไปสู่คุณความดีทั้งปวง
~ สิ่งใดเป็นเหตุ สิ่งใดเป็นผล ถ้ามีความเข้าใจถูกต้อง จะทำสิ่งที่ไม่ดีที่เป็นอกุศลไหม? ถ้ารู้ว่ากรรมที่เป็นอกุศลจะให้ผลอย่างไร จะทำสิ่งที่ไม่ดีที่เป็นอกุศลไหม? แต่ถ้าไม่รู้ว่าอกุศลจะให้ผลอย่างไร ก็กล้าที่จะทำสิ่งที่ไม่ดีต่อไป

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ตรัสคำจริงทั้งหมดเพื่ออนุเคราะห์ให้คนได้เข้าใจความถูกต้อง เพราะเหตุว่า ความเห็นถูกต้อง สำคัญที่สุดในแต่ละชาติ ถ้าเห็นผิดไปแล้ว เมื่อไหร่จะสำนึกเมื่อไหร่จะกลับตัว เมื่อไหร่จะว่าง่าย ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมวินัยเพื่อความสุขของประชาชนของผู้ฟังทั้งหมด ไม่ได้ประสงค์ร้ายเลย
~ ถ้ามีความเข้าใจถูกแล้ว กาย ถูกไหม วาจา ถูกไหม คิดทำแต่สิ่งที่ดี เป็นประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ว่าร้ายใคร ไม่ประทุษร้ายใคร ไม่เบียดเบียนใคร เพราะปัญญาเห็นโทษของธรรมที่ไม่ดี
~ ถ้าเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนตั้งแต่ต้นแล้วจะเข้าใจธรรมได้อย่างไร
~ ก่อนอื่นต้องชัดเจน ว่า ไม่มีเรา ถึงจะสามารถฟังธรรมต่อไปแล้วก็เข้าใจถูกต้องว่าไม่ใช่เราจริงๆ และธรรม ก็คือ ทุกสิ่งที่มี เกิดขึ้น ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร
~ ต้องสามารถเข้าใจขึ้นๆ จนเป็นผู้ที่ตรงต่อเหตุผลตามความเป็นจริง ไม่หลงผิดอีกต่อไป ไม่ไปมีสำนักปฏิบัติ ไม่ไปบอกให้นั่งให้นอนให้อยู่อย่างนั้นทำอย่างนี้คิดอย่างโน้น บอกได้อย่างไร บอกแล้วรู้อะไร นอกจากผิด ยังเป็นเราทั้งหมดที่ทำ
~ ใครก็ตามที่เข้าใจธรรม เขาเป็นใครก็ตาม งาม เพราะเข้าใจธรรม
~ พอได้แล้วสำหรับอกุศล ไม่ต้องทำอีก
~ ทำดีต่อพระธรรม ทุกขณะที่พูด ที่ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนา

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงต้องการอะไรเลย นอกจากให้ทุกคนได้มีความเข้าใจถูกในพระธรรม
~ ไม่รอช้าในการที่จะทำทุกอย่างที่ดี แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นกุศล เพราะไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่
~ ไม่มีใครที่สามารถจะทำร้ายกุศลได้ เมื่อมีความยินดีปลาบปลื้มที่ได้ทำ ก็คือว่า ไม่มีการที่จะโศกเศร้าเสียใจใดๆ เลย
~ ผู้ที่ตรงต่อความจริง สามารถละทิ้งความเห็นผิดได้ เป็นที่สรรเสริญ เป็นที่ยกย่อง ไม่ใช่เป็นผู้ที่ใครจะติเตียน กล้าที่จะเป็นอย่างนั้นไหม เพราะบางคน ผิด ก็ไม่กล้าที่จะทิ้ง รู้ว่าจริง ก็ไม่กล้าที่จะฟัง
~ สำหรับธรรม ก็อาจจะถามกันได้ ลองดูว่า จะตอบว่าอย่างไร วันไหน เป็นวันแห่งความรัก? (ทุกวัน เพราะความติดข้อง มีทุกวัน) เพราะฉะนั้น ความไม่รู้ ก็บอกว่า วันนี้ (๑๔ กุมภาพันธ์) เป็นวันแห่งความรัก แต่คนที่รู้ ก็บอกว่า ทุกวันเป็นวันแห่งความรักทั้งนั้น
~ ทุกคำควรไตร่ตรอง ว่า อะไรถูก อะไรจริง พูดคำที่ไม่รู้จักตลอด จนถึงกับว่า วันนี้
(๑๔ กุมภาพันธ์) เป็นวันแห่งความรัก หารู้ไม่ว่า ทุกวัน เป็นวันแห่งความรัก
~ ถ้าเข้าใจถูกต้อง วันแห่งความรัก กับ วันแห่งความรู้
(ปัญญา) จะเลือกอะไร?


* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๙๔


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย เจียมจิต สุขอินทร์  วันที่ 14 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค

อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย petsin.90  วันที่ 14 ก.พ. 2564

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 15 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย chureeporn  วันที่ 15 ก.พ. 2564

กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย jaturong  วันที่ 15 ก.พ. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย Amporn  วันที่ 15 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมท่านอาจารย์ค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย panasda  วันที่ 16 ก.พ. 2564

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย มังกรทอง  วันที่ 20 มี.ค. 2565

น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ