พระพุทธเจ้าเคยเป็นผู้หญิงหรือไม่คะ
โดย ณหทัย  25 มี.ค. 2556
หัวข้อหมายเลข 22679

เคยอ่านเจอแต่เสวยพระชาติเป็นสัตว์หลายอย่างเช่น ช้าง วานร สุนัข แต่ไม่เคยอ่านเจอ ตอนเป็นหญิง ขอสอบถามผู้รู้ด้วยค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 26 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับชาดกที่ผู้อ่านได้อ่านนั้น เป็นเรื่องราวของอดีตชาติของพระพุทธเจ้าครั้งเมื่อยังเป็นพระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้ตรัสรู้ กำลังบำเพ็ญบารมีต่างๆ ซึ่งในพระไตรปิฎกแสดงชาดกไว้ประมาณห้าร้อยกว่าเรื่อง แต่เป็นเรื่องที่ก่อนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไม่นาน คือ เมื่อสมัย ๑ กัป หรือ ๕ กัปที่แล้วเป็นต้นที่ผ่านมา

ส่วนสมัยที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร ว่าจะเที่ยงแท้ได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน เมื่อเวลาถอยไป ๔ อสงไขยแสนกัป ที่นานมาก เป็นเวลาที่นับจำนานกัปไม่ได้เลย ซึ่งตามธรรมดาของพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์แล้วเที่ยงแท้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า (นิยตโพธิสัตว์) ย่อมได้ความแน่นอน ดังนี้

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 691

พระนิยตโพธิสัตว์ ถึงพร้อมด้วยองค์ครบถ้วนอย่างนี้ แม้ท่องเที่ยวไปตลอดกาลยาวนานนับร้อยโกฏิกัปป์ ก็ไม่เกิดในอเวจี และในโลกันตริกนรก ไม่เกิดเป็นนิชฌามตัณหิกเปรต ขุปปิปาสิกเปรต กาฬกัญชิกาสูร แม้เข้าถึงทุคติ ก็ไม่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เมื่อเกิดในหมู่มนุษย์ ก็ไม่เป็นคนตาบอดแต่กำเนิด โสตก็ไม่วิกลบกพร่อง ไม่เป็นคนประเภทใบ้ ไม่เป็นสตรี ไม่เป็นคนสองเพศ และไม่เป็นบัณเฑาะก์. พระนิยตโพธิสัตว์ ไม่เป็นผู้นับเนื่องดังกล่าว พ้นจากอนันตริยกรรม มีโคจรบริสุทธิ์ในภพทั้งปวง ไม่เสพมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นว่ากรรมเป็นอันทำมีผล แม้อยู่ในสวรรค์ทั้งหลาย ก็ไม่เข้าถึงอสัญญีภพ ทั้งไม่มีเหตุที่ไปเกิดในเทพชั้นสุทธาวาส เป็นผู้น้อมไปในเนกขัมมะ เป็นสัตบุรุษ ไม่เกาะเกี่ยวในภพใหญ่น้อย บำเพ็ญแต่โลกัตถจริยาทั้งหลาย บำเพ็ญบารมีทั้งปวง.

เรื่องราวที่ผู้อ่านได้ในพระไตรปิฎกที่เป็นชาดก จึงเป็นเรื่องที่หลังจากที่พระโพธิสัตว์ได้รับการพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนแล้ว เพราะฉะนั้น จึงไม่มีชาติใดที่พระองค์จะเกิดเป็นหญิงอีกเลย หลังจากรับการพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า ครับ แต่ก่อนที่จะได้รับการพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าก่อนหน้านั้น ที่ไม่ได้แสดงไว้ในชาดกเรื่องต่างๆ ในพระไตรปิฎก ก็เกิดเป็นผู้หญิงได้เป็นธรรมดาของความไม่แน่นอนของคติภพภูมิที่เกิดของสัตว์โลก ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย ใฝ่รู้  วันที่ 26 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 26 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตราบใดที่ยังมีอวิชชา ความไม่รู้ อีกทั้งยังมีตัณหา ความติดข้อง ยินดีพอใจ เป็นเครื่องผูกไว้ จึงยังมีการเกิดอยู่ร่ำไป หมุนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ จากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่ง เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด อย่างไม่มีวันจบสิ้น นี้คือ เป็นธรรมดาของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

พระมหาสัตว์ คือ ผู้ที่สะสมอบรมเจริญบารมีประการต่างๆ เพื่อที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนกว่าจะถึงความสมบูรณ์พร้อมและทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ในที่สุด จะเห็นถึงความเมตตากรุณาของพระองค์ที่มีต่อสัตว์โลก เนื่องจากว่าพระบารมีทั้งหมดที่พระองค์ได้ทรงสะสมอบรมมา ก็เพื่อประโยชน์ เกื้อกูลอย่างแท้จริง คือ เพื่อที่จะทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วทรงแสดงให้ผู้อื่นได้รู้ตามพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ควรค่าแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นกุศลธรรม ขัดเกลากิเลสของตนเอง จนกว่าจะสามารถดับกิเลสได้ในที่สุด ซึ่งจะขาดการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมไม่ได้เลย ก็ต้องเริ่มฟัง เริ่มศึกษาพระธรรม ตั้งแต่ในขณะนี้ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับทีละเล็กทีละน้อย ครับ

..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 26 มี.ค. 2556

คนที่จะเป็นพระพุทธเจ้าต้องไม่เกิดเป็นผู้หญิง ไม่เกิดเป็นคนพิการ เป็นต้น เพราะกำลังของกุศลที่เกิดเป็นผู้หญิงอ่อนกว่าเกิดเป็นผู้ชาย ค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย daris  วันที่ 26 มี.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย jaturong  วันที่ 27 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย ณหทัย  วันที่ 27 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย orawan.c  วันที่ 26 มิ.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ