สัมภาษณ์ท่านอาจารย์สุจินต์โดยหนังสือพิมพ์แนวหน้าพระพุทธศาสนา
ประจำวันที่ 1-30 กันยายน พ.ศ. 2553
ซึ่งมีข้อคิดธรรมดีๆ อันควรค่าแก่การพิจารณาค่ะ
ในประเด็นของหนังสือพิมพ์ที่ว่า........คนค้นธรรมเปิดแฟ้ม…นักอภิธรรม เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2553
คนค้นธรรมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ถาม....ท่านอาจารย์ สนใจและเริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาเมื่อไหร่คะอ.สุจินต์....โดยมากเป็นคนที่ไม่ค่อยจะจำวัน เดือน ปี พ.ศ.นะคะ อันนี้รู้สึกจะมีในประวัติ คือ พ.ศ. 2496 ศึกษาพระอภิธรรมที่พุทธสมาคมถาม......อะไรเป็นเหตุจูงใจให้ท่านอาจารย์สนใจที่จะศึกษาพระพุทธศาสนาอ.สุจินต์...การศึกษาทั้งหมด มีประโยชน์ แต่ประโยชน์สูงสุดก็คือ รู้ว่าพุทธศาสนาไม่ใช่
วิชาที่ชาวโลกคิดได้ แต่ต้องเป็น การตรัสรู้ความจริงของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าถาม...ทำไมกิเลสของคนสมัยก่อนดูเหมือนว่าจะน้อยกว่ากิเลสของคนสมัยนี้อ.สุจินต์...สมัยก่อน หมายถึงกาลสมบัติ ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และทรงแสดงธรรม เพราะฉะนั้น ก็มีคนที่ได้สะสมบุญบารมีมา สะสมความเข้าใจธรรมมา พอได้ฟังแล้วก็สามารถดับกิเลสได้ เพราะฉะนั้น ก็เป็นกาลสมบัติเพราะเหตุว่า เมื่อเห็นว่า พระธรรมมีผู้ที่สามารถเข้าใจได้ ก็ทรงแสดงธรรม 45 พรรษา เป็นเหตุให้คนที่มีโอกาสได้ฟังสามารถที่จะเข้าใจ เกิดปัญญาที่จะดับกิเลสได้ แต่ถ้าคนสมัยนี้ ไม่ฟังพระธรรมเลย จะดับกิเลสได้อย่างไร เพราะว่าที่จะดับกิเลสได้ ถ้าเป็นอกุศลหรือเป็นตัวเราซึ่งมีกิเลสก็ดับไม่ได้ถาม....สิ่งก่อสร้างต่างๆ เป็นตัวช่วยกระตุ้นทำให้มนุษย์มีกิเลสมากขึ้นไหมคะอ.สุจินต์......เราไปคิดว่าภายนอก สิ่งภายนอก ทำให้เราเกิดกิเลสมากแต่จริงๆ แล้วกิเลสอยู่ที่ใจถาม...แล้วมีส่วนไหมคะ อย่างสมมติว่าสมัยก่อนไม่มีห้างสรรพสินค้าอ.สุจินต์..... แล้วคนสมัยก่อนมีกิเลสไหมถาม..ก็มีค่ะอ.สุจินต์....... เพราะว่า สิ่งที่เราเห็นในห้างสรรพสินค้า ก็คือสิ่งที่ปรากฏทางตา รูปร่างลักษณะต่างๆ เมื่อไม่รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรม ซึ่งไม่เที่ยง ว่างเปล่าจากสาระ ก็ยึดถือว่าเป็นตัวตน
กราบอนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ครับ
ขอบคุณและอนุโมทนาคุณวรรณืและหนังสือพิมพ์แนวหน้าครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
อ่านข้อความทีท่านอาจารย์ให้สัมภาษณ์รู้สึกประทับใจ..............................เช่น...พุทธศาสนาไม่ใช่ วิชาที่ชาวโลกคิดได้ แต่ต้องเป็นการตรัสรู้ความจริงของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า...
-------------------ถ้าคนสมัยนี้ไม่ฟังพระธรรมเลย จะดับกิเลสได้อย่างไร เพราะว่าที่จะดับกิเลสได้ ถ้าเป็นอกุศลหรือเป็นตัวเราซึ่งมีกิเลสก็ดับไม่ได้
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
"พุทธศาสนาไม่ใช่วิชาที่ชาวโลกคิดได้
แต่ต้องเป็นการตรัสรู้ความจริงของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า"
...สาธุ...
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์
หนังสือพิมพ์แนวหน้าและพี่วรรณีค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนา
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาคุณวรรณี
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะขอบคุณ และขออนุโมทนาคุณวรรณี
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
...............โห..สุดยอด ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาเช่นกัน..................
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
พุทธศาสนา เป็นศาสนาคู่โลก ไม่มีวันสูญสิ้น เพราะเป็นความจริง ที่ประเสริฐ
และจะมี พระพุทธเจ้าองค์ใหม่เกิดขึ้นโดยตลอด และคำสอนของพระองค์ก็เหมือนๆ กัน
คือสอนความจริงอันประเสริฐ ส่วนเราก็มีหน้าที่ศึกษาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าใจ
ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ชาติต่อๆ ไป จนกว่าเราจะไปนิพพาน แล้วก็หมดหน้าที่ของเรา
ความจริงแล้วที่สำคัญที่สุดของเราก็คือ "หน้าที่" ศึกษาให้เข้าใจความจริงนั้น