"สัพเพ สัตตา..สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น..................................................................................... (จนจบ)
ที่บอกว่าหลังไหว้พระ สวดมนต์ให้แผ่เมตตาทุกครั้ง และจากคำแผ่เมตตาดังกล่าวข้างต้นนั้น กระผมเข้าใจว่าเป็นการแผ่เมตตาที่ไม่เจาะจง เป็นการแผ่เมตตารวมหรือกว้างเกินไป แต่หลังไหว้พระ สวดมนต์แล้วหากกระผมต้องการแผ่เมตตาไปให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วโดยเจาะจงชื่อผู้ล่วงลับด้วย จะใช้คำแผ่เมตตาอย่างไรครับ กระผมต้องการคำแผ่เมตตาที่เราเจาะจงจะแผ่เมตตาไปให้ครับ กราบขอบพระคุณครับ
สิ่งที่ควรกระทำหลังจากได้กระทำบุญทุกประการแล้ว ควรอุทิศส่วนบุญไปให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ไม่ใช่แผ่เมตตา เมตตาควรเจริญกับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ไม่ควรเจริญกับผู้ล่วงลับไปแล้ว ดังนั้นหลังจากไหว้พระสวดมนต์หรือทำกุศลใดๆ ก็ตามสิ่งที่ควรทำ และมีประโยชน์แก่ผู้ล่วงลับไปแล้วก็คือ อุทิศส่วนบุญไปให้เขาอนุโมทนาส่วนสิ่งอื่นๆ ไม่สำเร็จประโยชน์แก่เขาเลย... ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่ ..
การแผ่เมตตา....
การอุทิศส่วนกุศลใช้กับคนตาย ส่วนการเจริญเมตตาใช้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ คำอุทิศ
ส่วนกุศล เช่น ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญแล้วในวันนี้ให้กับบิดา มารดา
และท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย ทั้งในปัจจุบันชาติและในอดีตอนันตชาติ ตลอดจน
เทพยดาและอมนุษย์ทั้งหลาย ขอจงมีจิตโสมนัสยินดี อนุโมทนาโดยทั่วถึงกันเทอญ
สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขณะที่หวังประโยชน์สุขกับผู้อื่นคือมีเมตตา ขณะทีท่องมีเมตตาหรือเปล่าหรือท่องตาม
ตัวหนังสือ ผู้ที่จะแผ่เมตตาได้ก็ต้องมีเมตตาจนมีกำลังจนถึงได้ฌาน เมตตาเริ่มจากคน
ในบ้าน คนใกล้ตัว ครูอาจารย์ เป็นต้น กับคนที่มีชีวิตอยู่ส่วนผู้ที่ล่วงลับไปแล้วควร
อุทิศกุศลให้ ผู้ที่มีชีวิตอยู่ควรมีเมตตากัน ด้วยกาย วาจา ใจ ขออนุโมทนาครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์