ภัยพิบัติในชีวิต แม้สมัยก่อน ก็มี
โดย สารธรรม  26 ก.ย. 2567
หัวข้อหมายเลข 48556

เรื่องของภัยพิบัติในชีวิต ไม่ได้มีแต่เฉพาะในยุคนี้สมัยนี้ แม้สมัยก่อน ก็มี และสมัยต่อไปก็มี ซึ่งขอกล่าวถึงการบำบัดทุกข์ด้วยกุศลจิตที่ตั้งมั่นใน พระรัตนตรัย


ปรมัตถโชติกา อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ พรรณนารัตนสูตร มีข้อความว่า

เมื่อกรุงเวสาลีเกิดทุพภิกขภัย และโรคภัยเบียดเบียนนั้น พวกเจ้าลิจฉวีเสด็จไปทูลเชิญพระผู้มีพระภาคให้เสด็จไปกรุงเวสาลี พระผู้มีพระภาคทรงพิจารณาว่า เมื่อพระองค์ตรัสรัตนสูตรที่กรุงเวสาลีจบแล้ว จะมีผู้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม บรรลุมรรคผลเป็นจำนวนมาก จึงทรงรับนิมนต์

พระเจ้าพิมพิสารทรงตระเตรียมหนทางเสด็จ แล้วส่งเสด็จถึงแม่น้ำคงคา พวกเจ้าลิจฉวีพากันบูชารับเสด็จพระผู้มีพระภาคเป็นสองเท่าที่พระเจ้าพิมพิสาร ทรงกระทำการส่งเสด็จ

ลำดับนั้น มหาเมฆก็ตั้งขึ้นทั้ง ๔ ทิศ พอพระผู้มีพระภาคทรงยกพระบาทแรกวางลงริมฝั่งแม่น้ำคงคา ฝนโบกขรพรรษก็โปรยเม็ดลงมา ใครต้องการเปียกก็เปียก ใครไม่ต้องการก็ไม่เปียก ในที่ทุกแห่งน้ำไหลพัดสิ่งปฏิกูลทั้งหลายลงสู่แม่น้ำคงคา พื้นดินก็สะอาดสะอ้าน

พวกเจ้าลิจฉวีให้พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ทุกๆ หนึ่งโยชน์ในระหว่างทาง ถวายมหาทาน ทำการบูชาเป็นทวีคูณ ๓ วัน จึงนำเสด็จสู่กรุงเวสาลี

พระผู้มีพระภาคประทับยืนใกล้ประตูพระนคร ตรัสรัตนสูตร ท่านพระอานนท์เมื่อจะกล่าวรัตนสูตรเพื่อเป็นปริตร (ป้องกันอุปัทวอันตราย) ได้เอาบาตรของ พระผู้มีพระภาคใส่น้ำเดินปะพรมไปทั่วพระนคร โรคก็สงบไป

และเมื่อทรงแสดงรัตนสูตร ท่านพระอานนท์ก็กล่าวธรรมที่แสดงถึงคุณของ พระรัตนตรัย และปะพรมน้ำไป

น่าคิด ใช่ไหม เพราะท่านพระอานนท์เป็นผู้ทำ แต่ อย่าลืม กุศลของใครก็ของคนนั้น กรรมของใครก็ของคนนั้น เพราะฉะนั้น กรรมของชาวเวสาลีมีไหมที่จะได้รับทุพภิกขภัย หรือมีกุศลกรรมไหมที่จะทำให้พ้นจากทุพภิกขภัย ถ้าผู้นั้นมีกุศลที่มั่นคงในพระรัตนตรัย เพราะว่ายามที่เดือดร้อนมีทุกข์ภัยต่างๆ ลืมคิดถึงพระธรรมกันส่วนใหญ่ อย่างที่บอกว่า ขอ ง่ายดี เร็วดีด้วย ไม่ต้องทำอะไรก็ขอ ขอพระภิกษุบุคคล หรือพระเครื่อง หรือพระพุทธรูปอะไรก็ขอ นั่นดูจะเป็นวิธีลัด เป็นวิธีง่าย แต่ไม่ใช่เหตุผล เหตุผลก็คือว่า กรรมของใครก็ของคนนั้น เพราะฉะนั้น ถ้าชาวเวสาลีเกิดกุศลจิตมั่นคงในพระรัตนตรัย ก็ย่อมเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่จะทำให้พ้นจากภัยพิบัติ และทุพภิกขภัยได้

และการที่ท่านพระอานนท์เอาบาตรของพระผู้มีพระภาคใส่น้ำ เดินไปทั่ว กรุงเวสาลี ก็เลยทำให้ผู้ที่ไม่เข้าใจในเหตุผล ทำตาม เพราะว่าธรรมเนียมประเพณี ต่างๆ ถ้าไม่พิจารณาในเหตุผล เพียงทำ จะไม่เข้าใจในเหตุผลเลยสักอย่างเดียว แต่ธรรมเนียมทุกอย่างถ้าศึกษาให้เข้าใจถึงเหตุผล ย่อมสามารถเข้าใจได้ว่า น้ำที่ ท่านพระอานนท์ประพรมไปนั้นจะมีประโยชน์อะไรบ้างหรือเปล่า

ท่านผู้ฟังฟังพระธรรม ก็หลงลืมสติบ้าง ใช่ไหม เผลอบ่อยๆ ถ้ามีคนเตือน อาจจะระลึกได้ และท่านพระอานนท์จะเตือนอย่างไร คนตั้งมากมายทั่วพระนคร เวสาลี แต่ถ้าประพรมน้ำเพื่อเป็นการเตือนให้ตั้งใจ ให้ระลึกถึงพระธรรม ให้เกิด กุศลจิต ให้ฟัง ให้มีใจที่มั่นคงแน่วแน่ อย่างนั้นก็เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่จะทำให้ผู้นั้น ไม่หลงลืมสติ แต่ไม่ใช่ว่าน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่คนมีโรคภัยไข้เจ็บ มีทุกข์ ไปพรมน้ำมนต์ที่ไหนก็จะหาย และถ้าหาย ก็เพราะว่าถึงกาลที่กรรมของเขาจะให้ผลอย่างนั้นๆ ถ้าไม่หาย ก็เป็นกรรมของบุคคลนั้นเองที่จะต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นคนที่มีเหตุผล

เพราะฉะนั้น ท่านผู้ฟังสามารถจะมีสติโดยไม่ต้องให้ใครมาสะกิด หรือ มาพรมน้ำมนต์ก็ได้ แต่ไม่ใช่น้ำมนต์นั้นจะเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์

รับฟัง และ อ่านเพิ่มเติม

รัตนสูตร

รัตนสูตร ๑

รัตนสูตร ๒

รัตนสูตร ๓