อาตมาจะปาราชิก ไหมครับ จากเหตุการณ์นี้ ขอรบกวนทีนะครับ ขอบคุณมากครับ
โดย sank666  9 มี.ค. 2557
หัวข้อหมายเลข 24565

(เหตุเกิดในวัด) อาตมาเดินไปพบผ้าปูรองนั่งผืนหนึ่ง ตกอยู่ อาตมาจึงเก็บมา (ในขณะนั้นมีใจคิดเก็บไว้เป็นของของตนและเก็บไว้ 1 คืน) ในเช้าวันต่อมาหลังจากบิณฑบาต อาตมาปูผ้าผืนนั้นนั่ง แล้วอาตมาก็ได้ยินว่ามีพระรูปหนึ่ง ทำผ้าปูรองนั่งหาย และอาตมาเชื่อว่าเป็นของพระรูปนั้นอย่างแน่นอน อาตมาจึงรีบนำผ้าปูนั่งผืนนั้นไปคืนทันที

-จากเหตุการณ์นี้ อาตมาจะปาราชิก หรือไม่ครับ รบกวนทีนะครับ

ขอบคุณมากครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 9 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการพระคุณเจ้า ครับ

อาบัติปาราชิก ข้อลักทรัพย์ จะต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ อันดับแรก ว่า มี ไถยจิต คือ มีจิตคิดขโมย หรือไม่ ถ้ามีจิตคิดขโมย และรู้ว่าไม่ใช่ของตน มีเจตนาหยิบไป ต้องอาบัติแน่นอน แต่จะต้องอาบัติข้ออะไรนั้น ก็ต้องพิจารณาที่มูลค่าของผ้าที่หยิบ ถ้าเกิน 5 มาสก ประมาณพันกว่าบาท ก็ต้องอาบัติปาราชิก ครับ

แต่หากไม่มีเจตนาที่จะขโมย เพียงคิดว่าจะหยิบเอาไปใช้ แล้วคืน อย่างนี้ ไม่ต้องอาบัติปาราชิก ครับ

อย่างไรก็ดี ควรเห็นของคนอื่น เหมือนอย่างอสรพิษที่น่ากลัว ร้ายแรง ที่จะทำร้ายได้ โดยเฉพาะเพศพระภิกษุ ที่ควรจะเป็นผู้สำรวมระวังกาย วาจา และประพฤติตามพระธรรมวินัย โดยเฉพาะการฟังธรรม ศึกษาพระธรรม ครับ ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 9 มี.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการพระคุณเจ้า ครับ

จะเป็นอาบัติปาราชิกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรายละเอียด หลายข้อเช่น ทรัพย์ที่เจ้าของหวงแหน มูลค่าสิ่งของ เจตนาที่จะลัก เป็นต้นและจำนวนมูลค่าที่จะเป็นปาราชิกในข้อลักทรัพย์ ก็คือ ๕ มาสก (เทียบได้กับน้ำหนักทองคำ ๒๐ เมล็ดข้าวเปลือก ซึ่งอยู่ในราวพันกว่าบาท) ถ้าราคาไม่ถึง ก็ไม่เป็นอาบัติปาราชิก แม้ว่าจะไม่ถึงอาบัติปาราชิก การลักขโมย ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ

ถ้าจะให้สบายใจที่สุด ก็ควรที่จะมีการประกาศหาเจ้าของว่า เป็นของใคร และที่น่าพิจารณาที่สุด คือ คำนึงถึงความเป็นพระภิกษุซึ่งเป็นเพศที่สูงยิ่ง บวชเพื่อศึกษาพระธรรม ขัดเกลากิเลส การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แล้วน้อมประพฤติในสิ่งที่พระองค์ทรงอนุญาต และไม่ประพฤติในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญ จะเห็นได้ว่า ความเดือดร้อนใจในภายหลังที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะไม่ได้คล้อยตามพระพุทธพจน์ ถ้าได้สำรวมตามสิกขาบทต่างๆ ที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ การต้องอาบัติน้อยใหญ่ ก็จะไม่เกิดขึ้น ก็จะไม่เป็นเหตุให้เดือดร้อนใจในภายหลัง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 9 มี.ค. 2557

ถ้ามีเจตนาขโมย และ ของมีค่าเกิน 5 มาสก ปาราชิก แต่ถ้าไม่มีเจตนาขโมย และของไม่มีค่าถึง 5 มาสก ไม่ต้องอาบัติปาราชิก ค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย nopwong  วันที่ 12 มี.ค. 2557

ขออนุโมทนา