* จิต หรือ ใจ คือธรรมที่ไม่ใช่เรา ซึ่งเป็นสภาพรู้ที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้อารมณ์ (คือสิ่งที่จิตกำลังรู้)
* ขณะนี้มีจิตซึ่งเป็นสภาพรู้ที่เป็นใหญ่เป็นประธาน เกิดร่วมกับเจตสิก ซึ่งเป็นสภาพรู้ที่เกิดพร้อมกันกับจิต รู้สิ่งเดียวกับจิต และดับไปพร้อมกับจิต เจตสิกไม่ได้ทำหน้าที่เป็นประธานในการรู้อารมณ์อย่างจิต แต่ทำหน้าที่แต่ละอย่างของเจตสิกนั้นๆ เช่น ผัสสเจตสิกทำหน้าที่กระทบอารมณ์ เวทนาเจตสิกทำหน้าที่รู้สึก เจตนาเจตสิกทำหน้าที่จงใจในการรู้อารมณ์
* เมื่อจิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ แม้ว่าจะมีเจตสิกหลายอย่างเกิดร่วมด้วย แต่เนื่องจากจิตเป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้อารมณ์ ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงจิต ก็รวมถึงเจตสิกทั้งหมดที่เกิดร่วมกันในขณะนั้นด้วย (จิตตุบาท)
* ในแต่ละขณะที่สั้นที่สุดเดี๋ยวนี้เอง ก็คือจิต (และเจตสิก) ที่เกิดจากเหตุปัจจัย ทำหน้าที่ของจิตนั้น แล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็ว และจิตขณะต่อไปก็เกิดขึ้นสืบต่อทันที โดยไม่มีระหว่างคั่น จึงไม่มีเราเลย
* ในขณะที่จิตเกิดร่วมกับเจตสิกที่ดีงาม เช่น ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ฯลฯ ปัญญา จิตขณะนั้นก็ผ่องใสดีงาม จึงทำให้เป็นไปในสุจริตทั้ง 3 คือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ซึ่งจะสะสมติดตามไปในจิต และนำประโยชน์สุขต่างๆ มาให้
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ