ค้นจากทั้ง ๒ แหล่งนี้แล้วยังไม่พบเลยครับ
etipitaka.com/search
www.84000.org
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัมภเวสี ปรากฏในส่วนของอรรถกถาจารย์ที่อธิบายพระไตรปิฎกเพิ่มเติมให้เข้าใจดังนี้ ครับ
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 566
เหล่าสัตว์ที่เสาะหา คือแสวงหาการสมภพ คือการเกิด ได้แก่การบังเกิดขึ้น ชื่อว่า สัมภเวสี. สัตว์เหล่าใดกำลังแสวงหาการเกิด สัตว์เหล่านั้น ชื่อว่า สัมภเวสี
คำว่า สัมภเวสี นี้ เป็นชื่อของพระเสขะและปุถุชนผู้กำลังแสวงหาการเกิดต่อไป เพราะยังละสังโยชน์ในภพไม่ได้.
คำว่า สัมภเวสี ตามความเป็นจริงแล้ว ใครก็ตาม ที่ยังไม่ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ชื่อว่าเป็นสัมภเวสี ทั้งหมด เพราะยังต้องเกิดอยู่ ดังนั้นพระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่เป็นสัมภเวสี ปุถุชน จนถึงพระอนาคามี เป็นสัมภเวสี เพราะยังต้องเกิด ยังแสวงหาที่เกิดอยู่ครับ
ขออนุโมทนา
คำว่า สัมภเวสี ปรากฏรูปศัพท์นี้ในพระบาลี ๓ นิกาย โดยขอยกพระบาลีเดิมมาเพื่อให้เห็นตัวรูปศัพท์ เนื่องจากหากค้นพระบาลีแปล อาจไม่พบได้ โดยพระบาลี ๓ นิกายดังกล่าว มีดังนี้ครับ
๑. มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
๑.๑ มูลปริยายวรรค สัมมาทิฏฐิสูตร ข้อ ๑๑๓ ว่าดังนี้
... จตฺตาโรเม อาวุโส อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ฐิติยา สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหายฯ ...
๑.๒ มหายมกวรรค มหาตัณหาสังขยสูตร ข้อ ๔๔๖ ว่าดังนี้
... จตฺตาโรเม ภิกฺขเว อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ฐิติยา สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหายฯ ...
๒. สังยุตตนิกาย นิทานวรรค อภิสมยสังยุตต์
๒.๑ อาหารวรรค อาหารสูตร ข้อ ๒๘ และ ข้อ ๓๑
๒.๒ มหาวรรค ปุตตมังสสูตร ข้อ ๒๔๐
๒.๓ มหาวรรค อัตถิราคสูตร ข้อ ๒๔๕
โดยทั้งสามพระสูตรที่มาในสังยุตตนิกาย นิทานวรรค อภิสมยสังยุตต์ ปรากฏพระบาลีเดียวกัน ว่าดังนี้
... จตฺตาโรเม ภิกฺขเว อาหารา ภูตานํ วา สตฺตานํ ฐิติยา สมฺภเวสีนํ วา อนุคฺคหายฯ ...
๓. ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ กรณียเมตตสูตร ข้อ ๑๐ และ ขุททกนิกาย สุตตนิบาต อุรควรรค เมตตสูตร ข้อ ๓๐๘
โดยปรากฏพระบาลีเดียวกันในคาถาที่ ๕ ของพระสูตร ว่าดังนี้
[คาถาที่ ๕] ทิฏฺฐา วา เย จ อทิฏฺฐา เย จ ทูเร วสนฺติ อวิทูเร
ภูตา วา สมฺภเวสี วา สพฺเพ สตฺตา ภวนฺตุ สุขิตตฺตาฯ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัตว์โลกที่ยังมีกิเลส มี ตัณหา และ อวิชชา เป็นต้น ก็ยังต้องมีการเกิดในภพต่างๆ อยู่ร่ำไป เป็นผู้เดินทางในสังสารวัฏฏ์ จากชาตินี้ไปสู่ชาติหน้า จากชาติหน้าก็ไปสู่ชาติต่อๆ ไปอีก ยังไม่พ้นไปจากความเป็นสัมภเวสี เพราะใครก็ตามที่ยังต้องมีการเกิดอยู่ ชื่อว่า สัมภเวสี ทั้งนั้น ซึ่งเป็นอย่างนี้มานานแล้ว เนื่องจากว่าเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน เป็นมาแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง และในชาตินี้เมื่อละจากโลกนี้ไป ก็ต้องเกิดในภพใหม่อีก ขึ้นอยู่กับว่ากรรมใดจะให้ผลนำเกิด
กล่าวคือ ถ้ากรรมดีให้ผล ก็ทำให้เกิดเป็นมนุษย์ หรือ เกิดเป็นเทวดา แต่ถ้าถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผลก็ทำให้เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ ถึงแม้จะเกิดเป็นอะไรก็ตาม ก็ยังต้องเดินทางต่อไปอีกในสังสารวัฏฏ์ เพราะบุคคลผู้ที่สิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏฏ์แล้ว ไม่ต้องเกิดอีก มีเพียงประเภทเดียวเท่านั้น คือ พระอรหันต์ ซึ่งเป็นผู้ห่างไกลจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ตราบใดที่ยังมีกิเลส ยังเวียนว่ายตายเกิด ก็ชื่อว่าสัมภเวสี เพราะยังแสวงหาที่เกิด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดาและสัตว์เดรัจฉาน ค่ะ
__/][__ได้ความกระจ่างแล้ว
ขอบคุณมากๆ ครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ