พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้าที่ 65
๖. มิคาโลปชาดก
[๘๖๓] ดูก่อนพ่อมิคาโลปะ. พ่อไม่มีความพอใจ
ที่เจ้าบินไปอย่างนั้น ลูกเอ๋ยเจ้าบินสูงมาก เจ้า
คบหาที่ไม่ใช่ถิ่นลูกเอ๋ย.
[๘๖๔] แผ่นดินปรากฏแก่เจ้า เป็นเสมือนนา
แปลง ๔ เหลี่ยมเมื่อใด เมื่อนั้นเจ้าจงกลับลง
มา อย่าบินเลยนี้ขึ้นไป. [๘๖๕] นกแม้เหล่าอื่นที่มีปีกเป็นยานพาหนะ
บินไปในอากาศมีอยู่ พวกมันถูกกำลังแรงของ
ลมพัดไป สำคัญตนว่า เป็นเสมือนสิ่งที่ยั่งยืน
ทั้งหลาย ได้พินาศไปแล้วมากต่อมาก.
[๘๖๖] แร้งมิคาโลปะ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของแร้ง
แต่ชื่ออปรัณผู้เป็นพ่อ บินเลยลมกาลวาตไป
ตกอยู่ในอำนาจของลมเวรัมภวาต.
[๘๖๗] เมื่อแร้งมิคาโลปะ. ไม่ปฏิบัติตามโอวาท
ทั้งลูกทั้งเมียของมันและแร้งอันๆ ที่เป็นลูก
น้องทั้งหมด ถึงความพินาศแล้ว.
[๘๖๘] ผู้ไม่สำนึกถึงคำสอนของผู้เฒ่าทั้งหลาย
ฉันนั้นเหมือนกัน ประพฤติเลยขอบเขตก็
เดือดร้อน ทุกคนไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระ
พุทธเจ้า จะถึงความพินาศเหมือนแร้ง
ที่ฝ่าฝืนคำสอนของพ่อ ฉะนั้น.
จบ มิคาโลปชาดกที่ ๖
ใครๆ ก็คิดว่า "พระพุทธศาสนาดี พระพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงหมดกิเลสโดยสิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง" การรู้เพียงเท่านี้เป็นเพียงแค่เรื่องราว พระประวัติ ไม่ได้ทำให้เราเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น พุทธศาสนิกชน หรือ พุทธสาวก อะไรเลย แต่ถ้าหากว่า เราเป็นผู้ที่สะสมบุญมาในกาลก่อน แล้วมีโอกาสได้ยินได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมจากผู้ที่เป็นยิ่งกว่าพ่อ คือ พระสัมมาสัม-พุทธเจ้าแล้ว เกิดปัญญาของตนเอง เห็นถึงพระมหากรุณาคุณมากขึ้น เราผู้เป็นกุลบุตร กุลธิดาก็ควรจะน้อมประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์เท่าที่จะกระทำได้ แต่ก็ต้องรู้ตามความเป็นจริงว่า การที่จะเป็นคนดีได้ ก็ต้องรู้ว่ากิเลสของตนเองมีมากแค่ไหน ด้วยปัญญาก่อนแล้วถึงจะมีปัจจัยให้ขวนขวายกระทำกุศล งดเว้นอกุศลกรรมบถได้มากขึ้นครับขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
พระโกกาลิกด่าว่าพระสารีบุตรเป็นผู้มีความปรารถนาลามก พระพุทธเจ้าก็เตือนพระโกกาลิก
ให้ไปขอขมา พระโกกาลิกไม่เชื่อฟัง ภายหลังตุ่มก็เกิดขึ้นที่ตัวจากเม็ดเล็กๆ ค่อยๆ โตขึ้น
สุดท้ายท่านก็ตายไปเกิดในนรกค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ