ในสูตรต่อไป ข้อความคล้ายกัน
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราได้เที่ยวแสวงหาความแช่มชื่นแห่งปฐวีธาตุ ได้พบความแช่มชื่นแห่งปฐวีธาตุนั้นแล้ว เราได้เห็นความแช่มชื่นแห่งปฐวีธาตุเท่าที่มีอยู่ได้ดีแล้วด้วยปัญญา เราได้พบโทษแห่งปฐวีธาตุนั้นแล้ว เราได้เห็นโทษแห่งปฐวีธาตุเท่าที่มีอยู่ด้วยดีแล้วด้วยปัญญา เราได้แสวงหาเครื่องสลัดออกแห่งปฐวีธาตุ ได้พบเครื่องสลัดออกแห่งปฐวีธาตุนั้นแล้ว เราได้เห็นเครื่องสลัดออกแห่งปฐวีธาตุเท่าที่มีอยู่ด้วยดีแล้วด้วยปัญญา
สำหรับข้อความต่อไปเป็นเรื่องของธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม คือ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ โดยนัยเดียวกัน
ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลมที่กายมีโทษไหม หรือมีแต่ความแช่มชื่น ปวดศีรษะ ถ้าไม่มีธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ปวดศีรษะได้ไหม ปวดท้องได้ไหม ปวดตาได้ไหม เป็นโรคต่างๆ ได้ไหม แต่เพราะเหตุว่ามีธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลมนี่เองก็ปรากฏความเป็นโทษต่างๆ ของธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม
โทษของปฐวีธาตุเอง คือ ความไม่เที่ยง เห็นโทษต้องประจักษ์ความไม่ใช่ตัวตน ความเป็นทุกข์เพราะไม่เที่ยง ที่ไม่ควรจะพึงยึดถือว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 97