พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 485
ความถือตัวว่า เราเป็นผู้ดีกว่าคนชั้นเดียวกัน ย่อมเกิดขึ้นแก่อิสสรชน
มีอมาตย์เป็นต้น. ด้วยว่าอมาตย์ย่อมกระทำความถือตัวทั้งหลายเหล่านั้นว่า
ราชบุรุษอื่นมีใครที่เสนอเราด้วยสมบัติในแว่นแคว้น หรือโภคะ ยานพาหนะ
เป็นต้น ดังนี้บ้าง. ว่าเรามีการกระทำต่างอะไรกับราชบุรุษอื่นๆ ดังนี้บ้าง,
ว่า เรามีชื่อว่า อมาตย์เท่านั้น แต่ไม่มีแม้สักว่าอาหารและเครื่องนุ่งห่ม
เราชื่อว่าอมาตย์อะไร ดังนี้บ้าง.
ความถือตัวว่า เราเป็นผู้ดีกว่าคนเลว เป็นต้น ย่อมเกิดขึ้นแก่พวก
ทาสเป็นต้น. ด้วยว่าทาสย่อมกระทำความถือตัวทั้งหลายเหล่านี้ว่า ชื่อว่า
ทาสอื่นมีใครที่เสมอเราฝ่ายมารดาก็ตาม ฝ่ายบิดาก็ตาม ทาสอื่นๆ ไม่อาจ
จะเป็นอยู่ เกิดเป็นทาสเพราะปากท้อง แต่เราดีกว่า เพราะมาตามเชื้อสาย
ดังนี้บ้าง, ว่า เรามีการกระทำต่างอะไรกับทาสชื่อโน้น ด้วยความเป็นทาส
แม้ทั้งสองฝ่าย เพราะมาตามเชื้อสาย ดังนี้บ้าง, ว่า เราเข้าถึงความเป็นทาส
เพราะปากท้อง แต่ไม่มีฐานะทาสโดยที่สุดแห่งมารดา บิดา เราชื่อว่าทาส
อะไรดังนี้บ้าง.
แม้พวกปุกกุสะและพวกจัณฑาลเป็นต้น ก็กระทำความถือตัวเหล่านี้
เหมือนทาสนั่นแล.
ก็ในบทนี้ ความถือตัวที่เกิดขึ้นว่า เราเป็นผู้ดีกว่าคนดี เป็นความ
ถือตัวที่แท้. ความถือตัว ๒ อย่างนอกนี้ มิใช่ความถือตัวที่แท้
บรรดาความถือตัวที่แท้และไม่แท้ ๒ อย่างนั้น ความถือตัวที่แท้
ฆ่าด้วยอรหัตตมรรค, ความถือตัวที่ไม่แท้ ฆ่าด้วยโสดาปัตติมรรค.
ยังมีความเป็นตัวตนอยู่ จึงยังมีความถือตัวอยู่
ขอบพระคุณมากค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ
"ความถือตัวที่แท้ฆ่าด้วยอรหัตตมรรค, ความถือตัวที่ไม่แท้ ฆ่าด้วยโสดาปัตติมรรค."
ขออนุโมทนาครับ ไม่แปลกใจที่ยังมีความถือตัวอยู่ ส่วนว่าจะมากน้อยเท่าใด
ก็เป็นไปตามการสะสมนะครับ
อนุโมทนาคะ