ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 1
๑. ตโปกรรมสูตร
ตบะอื่นไม่อำนวยประโยชน์
[๔๑๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสรู้ใหม่ๆ ประทับอยู่ที่ต้นไม้ อชปาลนิโครธ ใกล้ฝั่งแม้น้ำเนรัญชรา ณ ตำบลอุรุเวลา ครั้งนั้น พระผู้มี พระภาคเจ้าประทับพักร้อนอยู่ในที่ส่วนพระองค์ ได้เกิดความตรึกแห่งพระทัย อย่างนี้ว่า สาธุ เราเป็นผู้พ้นจากทุกรกิริยานั้นแล้วหนอ สาธุ เราเป็นผู้ พ้นแล้วจากทุกรกิริยาอันไม่ประกอบด้วยประโยชน์นั้นหนอ สาธุ เราเป็นสัตว์ ที่บรรลุโพธิญาณแล้วหนอ.
[๔๑๗] ครั้งนั้น มารผู้มีบาปได้ทราบความตรึกแห่งพระทัยของ พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยจิต จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ แล้ว ได้ทูลด้วยคาถาว่า
มาณพทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ได้ด้วย การบำเพ็ญตบะใด ท่านหลีกจากตบะนั้น เสียแล้ว เป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มาสำคัญตนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านพลาดมรรคาแห่งความ บริสุทธิ์เสียแล้ว
[๔๑๘] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า นี่มารผู้มีบาป จึงได้ตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า เรารู้แล้วว่า ตบะอื่นๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ตบะทั้งหมดหาอำนวยประโยชน์ให้ไม่ ดุจถ่อเรือบนบก ฉะนั้น (เรา) เจริญมรรค คือ ศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อความ ตรัสรู้ เป็นผู้บรรลุความบริสุทธิ์อย่าง ยอดเยี่ยมแล้ว ดูก่อนมารผู้กระทำซึ่งที่สุด ตัวท่านเป็นผู้ที่เรากำจัดเสียแล้ว.
ครั้งนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์เสียใจว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้ จักเรา พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นเอง
ขออนุโมทนาครับ