พอดีผมได้ฟังธรรมจากอาจารย์สุจินต์ในคลื่นวิทยุ FM 88.5 เมื่อเช้านี้ 05.00-06.00 (ปกิณกธรรมตอน 731) ระหว่างเดินทางจากโคราชมา กทม. เสียงฟังชัดเจนดีครับ
มีข้อจะเรียนถามท่านสหายธรรมดังนี้ครับ
1. การปฏิสนธิจิต ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อไหร่ครับ? หากสามี ภรรยา เริ่มตั้งครรภ์มีบุตร ดวงจิตหนึ่งที่จะมาเกิดจะมาจากไหน? มาจากสถานที่แห่งนั้นๆ (คือภพทั้งหลายที่อยู่บริเวณอาณาเขตที่สามีและภรรยามีการร่วมเพศหรือเปล่า) และดวงจิตจะมาปฏิสนธิเมื่อไหร่ (เมื่ออสุจิผสมกับไข่ หรือตอนเป็นตัว หรือตอนคลอด)
2. การจะให้ลูกดีมาเกิดต้องทำอย่างไรครับ มีแสดงในพระไตรปิฏก ผมจำไม่ได้แล้วว่าอยู่เล่มไหน ตอนนั้นเคยอ่านผ่านๆ แต่ตอนนี้เริ่มจะสนใจ เลยไม่รู้ว่าอยู่เล่มไหน รบกวนท่านผู้รู้ช่วยบอกหน่อยนะครับ
3. คำว่า ประสาท ผมได้ยินการแสดงธรรมของอาจารย์สุจินต์ท่านพูดว่า ประ-สา-ทะสามารถอ่านว่าประ-สาด ได้หรือไม่ครับ
ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานทุกท่านที่แสดงครับ
๑. ปฏิสนธิจิตของสัตว์ทั้งหลาย เกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่อยู่ในครรถ์ของมารดา โดยอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เช่น มารดาบิดาอยุ่ร่วมกัน มารดามีระดู มีสัตว์มาปฏิสนธิ ฯ
๒. การจะให้ลูกที่ดี หรือไม่ดีมาเกิด เลือกไม่ได้ครับ ถ้าเลือกได้ทุกคนคงจะมีแต่ลูกที่ดีๆ ทั้งนั้น แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น
๓. คำว่า ปสาท (ปะ - สา - ทะ) ออกเสียงตามภาษาบาลี ถ้าออกเสียงตามภาษาไทยออกเสียงว่า ปะ - สาด เช่น คำว่า จักขุปสาท (จัก-ขุ-ปะ สาด)
1. ปฏิสนธิจิตเป็นวิบากจิต เป็นผลของกรรม เกิดขึ้นหลังจากที่จุติจิตของชาติที่แล้วดับไปโดยเกิดสืบต่อทันทีไม่มีระหว่างคั่น พร้อมกันนั้นก็มีรูป 3 กลุ่มซึ่งเกิดจากกรรม (กัมมชรูป) เกิดขึ้นในขณะนั้นด้วย ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นเพียงขณะเดียว รู้อารมณ์เดียวกับจิตใกล้จุติของชาติที่แล้ว แล้วก็ดับไป จิตทุกดวงไม่ได้มีอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อรอการเกิดขึ้น แต่ที่จิตเกิดขึ้น ก็เพราะมีเหตุปัจจัยให้เกิดจึงเกิดครับ ซึ่งถ้าเกิดในภพภูมิมนุษย์นี้ ก็ต้องเป็นเพราะผลของกุศลกรรมนำเกิด แต่ถ้าเป็นผู้ที่พิการ บ้า ใบ้ บอด หนวก ก็ต้องเป็นผลของกุศลกรรมที่มีกำลังอ่อนมากนำเกิด ไม่มีใครรู้ได้ว่าปฏิสนธิจิต และกัมมชรูปที่เกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตนั้นเกิดตอนไหน เพราะจิตหนึ่งขณะก็เกิดดับรวดเร็ว และรูปที่เกิดขณะนั้นก็แสนจะเล็กมากครับไม่อาจจะมองด้วยตาเปล่าได้เลย ส่วนใหญ่กว่าจะรู้ว่าตั้งครรภ์ มีบุตรแล้ว ก็อาจจะมีการไปพบแพทย์เมื่อเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง ร่างกายของทารกได้เจริญขึ้นจนมีลักษณะที่ปรากฏให้เห็นชัดขึ้นจากภายนอก เช่น มีครรภ์ใหญ่ หรือว่าภรรยาอาจจะมีอาการปรากฏ คือแพ้ท้อง เป็นต้นครับ
2. สังสารวัฏฏ์ฏอันยาวนาน แต่ละคนต่างล้วนเคยเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ มิตร ศัตรู กษัตริย์พราหมณ์ จัณฑาล ฯลฯ นับไม่สิ้นครับ แม้แต่พระโพธิสัตว์ผู้สั่งสมอบรมเจริญบารมีเพื่อการที่จะตรัสรู้โดยพระองค์เองที่จะเป็นพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธ-เจ้า ก็ยังต้องไปเกิดในตระกูลพราหมณ์ผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิได้ ฉะนั้น ผู้จัดสรรการเกิดอย่างยุติธรรมที่สุด คือ กรรม ครับ
3. ภาษาบาลี (ในการเขียนโดยอักษรไทย) ออกเสียงคำที่ไม่มีสระอะปรากฏท้ายคำครับ แต่ในภาษาไทยเรามักจะอ่านออกเสียงตัวสะกดท้ายด้วย ซึ่งจะออกเสียงอย่างไรก็ดี ถ้าเป็นคำที่สื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีปรากฏในขณะนี้ ก็ล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญปัญญาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ