ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
และมีกระทู้ที่น่าสนใจให้อ่านเพิ่มเติมด้วยครับ
ประโยชน์อะไรเมื่อได้มาสังเวชณียสถาน
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย "ก็ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เที่ยวจาริกไปยังเจดีย์ (สังเวชนียสถาน) มีจิตเลื่อมใสแล้ว
จักทำกาละลง ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตกจักเข้าถึงสุคติโลก
สวรรค์ ฯ"
--------------------------------------------------------------------------------- สภาพธรรม เป็นสิ่งที่ตรง เพราะเป็นสัจจะ กุศลกรรม ย่อมให้ผลที่ดี ไม่เปลี่ยนแปลง
มีการเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เป็นต้น อกุศลกรรม ย่อมให้ผลที่ไม่ดี ไม่เปลี่ยนแปลง
มีการเกิดในอบายภูมิ เป็นต้น
จากข้อความ ที่พระองค์ตรัสไว้ในการเที่ยวจาริกไปในสังเวชนียสถาน มีจิตเลื่อมใส
นั่นก็คือ มีศรัทธา ที่เป็นสภาพธรรมฝ่ายดี เกิดกับจิตที่เป็นกุศล ดังนั้น ขณะนั้นเป็น
กุศลที่ไปไหว้ ไปน้อมระลึกถึงพระคุณที่สังเวชนียสถาน เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นกุศลจิต
และมีการกระทำทางกาย วาจาที่มีจิตเลื่อมใสในสังเวชนียสถาน ก็เป็นกุศลกรรม เมื่อ
กุศลกรรม คือ การมีจิตเลื่อมใสในสังเวชนียสถานให้ผล ก็ทำให้เกิดในสุคติโลกสวรรค์
นี่คือ ความเป็นธรรมดา แน่นอนที่ไม่เปลี่ยนแปลงว่า ธรรมใดเป็นกุศล เมื่อกุศลให้ผลก็
ต้องไปเกิดในภพภูมิที่ดี แต่ธรรมเป็นเรื่องละเอียด เพราะการให้ผลของกรรม มีกาล
เวลา และมีแตกต่างกันไป กรรมบางอย่างให้ผลในชาตินี้ กรรมบางอย่างให้ผลในชาติ
หน้า กรรมบาองย่างให้ผลในชาติที่ 2 และชาติถัดๆ ไป และกรรมบาองย่าง ไม่มีโอกาส
ให้ผลก็มีครับ ดังนั้น จึงไม่ได้หมายความว่า เมื่อไปกราบไหว้สังเวชนียสถานแล้วใน
ชาตินี้ ชาติต่อไปก็จะไปเกิดในสวรรค์ทุกๆ คน ธรรมเป็นอนัตตา แล้วแต่ครับว่า กรรมใด
จะให้ผล อาจเป็นกรรมชั่วที่มีกำลังให้ผลก่อนก็ได้ครับ เช่น เมื่อไหว้สังเวชนียสถาน
แล้ว เวลาต่อมา มีการทำอนันตริยกรรม มีการฆ่า บิดา มารดา กรรมที่เป็นอนันตริยกรรม
ย่อมให้ผลก่อน คือ ในชาติต่อไปทันที ไปเกิดในนรก ทันทีเพราะกรรมนั้น แม้จะทำ
กรรมดีมากมายอย่างไรก็ตามครับ
นี่แสดงถึงการให้ผลของกรรม มีความละเอียด ซับซ้อนเพราะสภาพธรรมเกิดจากเหตุ
ปัจจัยหลายๆ ประการครับ จึงไม่จำเป็นครับว่าเมื่อไปไหว้สังเวชนียสถานแล้ว ชาติต่อ
ไปจะไปเกิดบนสวรรค์ แต่พระพุทธองค์แสดงเหตุตามความเป็นจริงไว้ว่า ผู้ที่มีจิต
เลื่อมใส ไปสังเวชนียสถาน ทำกุศลกรรมไว้ ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เมื่อกรรมนั้น
ให้ผล เมื่อแตกกายตายไป ซึ่งอาจจะเป็นชาตินี้ หรือไม่ใช่ หรือ ชาติต่อไป แต่ถ้า
กรรมดีให้ผลย่อมให้ผลดีแน่นอน พระพุทธองค์จึงทรงแสดงตามเหตุผลที่ตรงตาม
ความเป็นจริงครับ ดังเช่น ท่านอาจารย์สุจินต์ได้กล่าวไว้ว่า กุศลนำไปสู่สุคติค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอาจารย์สุจินต์ คุณ Nareopak และทุกท่านครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ขออนุญาตร่วมสนทนา ด้วยครับ สังเวชนียสถาน เป็นสถานที่อันบุคคลผู้มีศรัทธาพึงไป เป็นสถานที่มีจริงๆ ซึ่งมีในโลกมนุษย์เท่านั้น ไม่มีในสวรค์และไม่มีในพรหมโลก สถานที่ดังกล่าวนั้น คือ สถานที่พระโพธิสัตว์ประสูติ ซึ่งจะเป็นการเกิดครั้งสุดท้าย ไม่มีการเกิดในภพใหม่อีกต่อไป สถานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ สถานที่ทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรก และสถานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน นอกจากนั้นพุทธสถานอื่น ๆ ก็ควรได้ไปกราบนมัสการเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนั้น เพื่อการเจริญขึ้นของกุศลธรรม ขัดเกลากิเลสของตนเอง เรื่องกรรม และ การให้ผลของกรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เราไม่สามารถบังคับบัญชาได้ว่าจะให้กรรมนั้น กรรมนี้ ให้ผล เพราะต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น และ ในแต่ละภพในแต่ละชาติ แต่ละคนก็ได้กระทำกรรม มามาก มีทั้งที่เป็นกุศลกรรม และ อกุศลกรรม ไม่สามารถจะรู้ได้ว่า กรรมใด จะให้ผลเมื่อใด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ความเป็นผู้ไม่ประมาท เป็นสิ่งที่สำคัญทีุ่สุด ไม่ประมาทในการเจริญกุศล และ สะสมปัญญาในชีิวิตประจำวัน เมื่อสะสมกุศล บ่อยๆ เนืองๆ โอกาสที่กุศล ให้ผล ก็ย่อมจะมีมากกว่าความเป็นผู้ประมาทมัวเมา ประกอบแต่อกุศลกรรม "กุศล นำไปสู่สุคติค่ะ" ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้กล่าวไว้ดีแล้ว
เพราะกุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ดีงาม เป็นเหตุที่ดี เมื่อเหตุที่ดี มี ผลก็ย่อมเกิดขึ้นตามสมควรแก่เหตุ ถ้ากรรมดังกล่าวให้ผลนำเกิด ก็ทำให้เกิดในภพภูมิที่ดี คือ เกิดเป็นมนุษย์ หรือ เกิดเป็นเทวดา เพราะสุคติภูมิ ปรากฏ เพราะกุศลธรรม เท่านั้น ไม่ใช่ อกุศลธรรม ครับ. กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณ Nareopak และทุกๆ ท่านด้วยครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
และมีกระทู้ที่น่าสนใจให้อ่านเพิ่มเติมด้วยครับ
ประโยชน์อะไรเมื่อได้มาสังเวชณียสถาน
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ