การอยากได้ผล จะเป็นกุศลไม่ได้เลย นี่เป็นเหตุที่โลภะ ทำให้สังสารวัฏฏ์เป็นไป ถ้าปราศจากโลภะ สังสารวัฏฏ์ย่อมหยุด ไม่สามารถเป็นไปต่อไปได้ เพราะฉะนั้นแม้การสวดมนต์ ซึ่งเป็นกุศล ก็ยังอดมีความหวัง ความต้องการผลเกิดขึ้นแทรกไม่ได้ แล้วสังสารวัฏฏ์จะหมดได้อย่างไร เพราะว่าการสวดมนต์จริงๆ แล้ว กุศลจิตในขณะนั้นคือขณะที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ จึงเป็นกุศล นี่คือหลัก
โลภะติดทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นโลกุตตรธรรม 9 เท่านั้น ถ้าขาดหลักแล้วเราอาจเข้าใจผิดได้ว่า โลภะเป็นกุศลได้ ต้องเป็นผู้ละเอียดในการศึกษาจริงๆ จึงจะเป็นผู้ตรงได้
อนุโมทนาครับ
ความอยาก ความต้องการนั้นเป็นโลภมูลจิต เมื่อต้องการ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสที่ดี จึงเสาะแสวงหา เมื่อแสวงหาได้มาแล้ว ขณะจิตที่รู้ รูป เสียง กลิ่น ฯลฯ ดีๆ นั้น มิใช่ผล มาจากความอยากความต้องการนั้น เพราะโลภมูลจิตเป็นเหตุที่ ไม่ดี จะให้ผลที่ดีไม่ได้ ขณะจิตที่รู้อารมณ์ที่ดี ทาง ตา หู จมูก ฯลฯ เป็นกุศลวิบากจิต ต้องเป็นผล มาจากกุศลกรรม มิใช่ผลมาจากความอยาก ความต้องการ ที่เป็น โลภมูลจิต วิปัสสนาญาณขั้นแรก มิใช่ให้ละความอยาก ความต้องการในชีวิตประจำวัน แต่เป็นปัญญาที่ประจักษ์แจ้งลักษณะที่ต่างกันของนามธรรม รูปธรรม ในชีวิตประจำวัน นี่เอง ซึงก็ไม่ใช่จะประจักษ์แจ้งได้ทันที ต้องอบรมเจริญวิปัสสนา รู้ลักษณะของ นาม-รูปเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนับไม่ถ้วน
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ