ธรรมะประทับใจ จากบันทึกในการสนทนาที่มูลนิธิฯ (ส่วนหนึ่ง)
๑. สังเกตุเวลาตาย รูปยังเป็นรูป ไม่รู้อะไรเลย ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะไม่มีจิตรู้ แต่ตอนมีจิต คือตอนมีชีวิตอยู่ ไม่เคยรู้เลยว่า รูปเป็นอย่างไร
๒. เมื่อฟังแล้วยังไม่ละความเป็นเรา จึงเข้าใจไม่มาก ขณะเริ่มเข้าใจทีละเล็กละน้อย ค่อยๆ สะสม ทุกขณะที่เริ่มเข้าใจเป็นปัญญา จนรู้ลักษณะความจริงที่กำลังปรากฏ
๓. เมื่อสภาพธรรมปรากฏ ควรรู้ รู้ว่าเกิดสภาพธรรมตามความเป็นจริง ดีกว่าสงสัยว่าทำไมจึงมี อย่าลืมว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ จึงควรรู้ ในสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่อยากรู้ในสิ่งที่ยังไม่ปรากฏ
๔. แม้ชื่อที่ตั้งเรียกธรรมะ เยอะแยะ แต่ไม่เข้าใจ เพราะได้ยินชื่อต่างๆ มากมาย แต่ไม่เคยรู้สภาพธรรมที่มี ไม่มีวันที่จะรู้จริง ถ้าไม่รู้ในสิ่งที่กำลังปรากฏ
๕. ชื่อยา ไม่ใช่ตัวยา เอาชื่อไปรักษาไม่หาย ต้องเอาตัวยาไปรักษาจึงหาย
๖. อักษร แปลว่า ไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่ควรไปสนใจอักษรมากนัก คือหาที่จบไม่ได้ ศึกษาจากที่เป็นจริงจึงจะรู้จักจบ
๗. ขณะฟังเข้าใจ ไม่มีเรา แต่เป็นเพราะสังขารขันธ์ (สภาพธรรม) ทำหน้าที่ของมันเองเริ่มระลึกรู้ตัวจริงของธรรมะ จนความรู้จริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
๘. การประพฤติธรรม ไม่ใช่เรา แต่เป็นสังขารขันธ์ ที่จะค่อยๆ นำไปสู่สิ่งที่ถูกต้อง
๙. การศึกษาธรรมะ ไม่ใช่ศึกษาคำ แต่มีคำใช้แทนให้เข้าใจ
๑๐. การฟังธรรมให้เกิดประโยชน์ มีบุญมาก่อนจึงมีเหตุให้ได้ฟัง มีมนสิการ ตั้งใจฟัง พิจารณาให้เข้าใจ เพื่อประพฤติธรรม สมควรแก่ธรรม
๑๑. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนตรัสสอน จะตรัส "ดูก่อน" เพื่อให้รู้ว่า จะพูด และให้เตรียมตัว เพื่อฟัง
๑๒. ธรรมะมิได้อยู่ในตำรา อยู่ในตัวเราทั้งสิ้น.. ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
๑๓. เรียนธรรมะ ไม่ใช่ให้รู้จักมากๆ จำได้มากๆ พูดได้มากๆ ไม่ควรวุ่นวายอยู่กับชื่อศัพท์ต่างๆ ควรพยายามเข้าใจมากกว่า อยู่ในตัวเราทั้งสิ้น
๑๔. เมื่อเกิดสภาพธรรมขึ้น ไม่ใช่เราที่รู้สึก เป็นเพียงขันธ์ที่เกิดแล้วดับไปเอง ไม่ต้องทำอะไร เพียงเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม นั่นเป็นธรรมะที่เกิดขึ้นปรากฏเท่านั้น
๑๕. ฟังธรรมะ จากไม่รู้เป็นรู้ เมื่อรู้ก็เกิดการละ คือละความไม่รู้ ต่างจากขณะที่ไม่รู้
๑๖. การศึกษาธรรม อย่าหวังอะไร อย่าหวังจะหมดทุกข์ อย่าหวังจะสงบสุข อย่าหวัง อย่าอยากรู้วิธี เพียงฟัง พิจารณาในสิ่งที่ปรากฏ เมื่อรู้ความจริง ในลักษณะสิ่งที่ปรากฏ ค่อยๆ เข้าใจทีละน้อยๆ จะค่อยๆ ละความ หวังว่า เมื่อไหร่จะรู้
กราบอนุโมทนาทุกท่านครับ
๕. ชื่อยา ไม่ใช่ตัวยา เอาชื่อไปรักษา ไม่หาย ต้องเอาตัวยาไปรักษา จึงหาย ยาขนานนี้เหมาะกับผมมาก
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขณะฟังเข้าใจ ไม่มีเรา แต่เป็นเพราะสังขารขันธ์ (สภาพธรรม) ปรุงแต่งทำหน้าที่ของมันเอง เริ่มระลึกรู้ตัวจริงของธรรมะ จนความรู้จริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
การให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง
ขออนุโมทนาเช่นกันค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
อนุโมทนานะคะ
ขออนุโมทนาครับ
๓. เมื่อสภาพธรรมปรากฏ ควรรู้ รู้ว่าเกิดสภาพธรรมตามความเป็นจริง ดีกว่าสงสัยว่าทำไมจึงมี อย่าลืมว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ จึงควร รู้ ในสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่อยากรู้ในสิ่งที่ยังไม่ปรากฏ
...ขออนุโมทนาครับ...
ขอบคุณและอนุโมทนาด้วยครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
เป็นบันทึกที่ดีมากค่ะ อนุโมทนาค่ะ