ขอท่านผู้รู้ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับพยายม ด้วยครับ เคยได้ยินว่ามีพระสูตรหนึ่งที่

พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนให้ ผู้ทำกุศลกรวดน้ำให้กับพยายม ด้วย ไม่ทราบว่า

ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรครับ ขอกราบอนุโมทนา ท่านผู้รู้ที่จะให้ความรู้ด้วยครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พญายม หรือ ยมทูต มีจริง ท่านเป็นเวมานิกเปรต หมายถึง คราวหนึ่งก็จะเสวยสมบัติ

อีกคราวก็จะต้องมาแสดงผลของกรรมของสัตว์ ให้สัตว์นรก ผู้พอที่จะล่วงรู้ได้ ได้ทราบ

และให้ระลึกครับ พญายมมี 4 ตน ทั้ง 4 ประตูนรก

ซึ่ง ในคำถามที่ว่า ให้มีการอุทิศส่วนกุศลให้กับพญายมด้วย ในตรงนี้ ไม่มีพระธรรม

ที่แสดงให้จำเพาะเจาะจง กับ พญายม หากแต่ว่า มีข้อความที่แสดง ว่า มี มนุษย์ที่

ทำกุศลแล้ว อุทิศส่วนกุศลให้พญายมราช และ ท่านรับรู้ในกุศลนั้น ครับ ดัง

ข้อความที่ว่า

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๒- หน้าที่ 205

ส่วนผู้ใด ย่อมระลึกไม่ได้ด้วยเทวทูตทั้ง ๕ พญายมให้ผู้นั้น ระลึกได้เอง.

ได้ยินว่า อำมาตย์คนหนึ่ง บูชาหาเจดีย์ด้วยหม้อดอกมะลิ ได้ให้ ส่วนบุญแก่

พญายม. นายนิรยบาล นำอำมาตย์นั้นผู้เกิดในนรกเพราะอกุศลกรรม ไปหาพญายม.

เมื่ออำมาตย์นั้น ระลึกไม่ได้ ด้วยเทวทูตทั้ง ๕ พญายมตรวจดูเองเห็นแล้วให้ระลึก

ว่าท่านบูชามหาเจดีย์ด้วยหม้อดอกมะลิแล้ว แผ่ส่วนบุญให้เรามิใช่หรือ. เขาระลึก

ได้ในเวลานั้นแล้ว ไปสู่เทวโลก

----------------------------------------------------------

ซึ่ง มีแต่ ตอนที่ท้าวสักกะ ขอ ให้ พระพุทธเจ้า อุทิศส่วนกุศล ในธรรมทาน คือ

ในการฟังธรรม เป็นต้น พระพุทธเจ้าทรงทราบ ทรงเรียก ภิกษุทั้งหลาย และ ตรัสว่า

เมื่อเธอฟังธรรม หรือ กล่าวธรรม จงอุทิศให้สัตว์ทั้งหลาย ดังข้อความในพระไตรปิฎก

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ หน้าที่ 328

พระศาสดา ทรงสดับคำของท้าวเธอแล้ว รับสั่งให้ภิกษุสงฆ์ประชุมกันแล้ว

ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเธอทำการฟังธรรมใหญ่ก็ดี

การฟังธรรมตามปกติก็ดี กล่าวอุปนิสินนกถาก็ดี โดยที่สุดแม้การอนุโมทนา

แล้วพึงให้ส่วนบุญแก่สัตว์ทั้งปวง."

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ซึ่ง การอุทิศส่วนกุศล ก็สามารถอุทิศใด้ ในกุศลประการต่างๆ ทุกประการ และ

ไม่ได้จำเพาะเจาะจง กับใครเท่านั้น แต่ควรอุทิศส่วนกุศลให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย

เพื่อให้สัตว์นั้น เหล่าใด เหล่านี้ ได้ล่วงรู้ และ เกิดจิตอนุโมทนาบุญนั้นได้ เป็นสำคัญ

การอุทิศส่วนกุศล จึงเป็นเรื่องของกุศลจิตที่เป็นความหวังดี กับบุคคลอื่น ที่จะทำให้

เกิด กุศลกับเขา และ เกิดสิ่งที่ดีๆ กับเขา แต่ ไม่ใช่เพื่อเราที่จะได้รับสิ่งที่ดี ในการ

อุทิศให้คนอื่น ครับ

อย่างไรก็ดี หาก ทราบความเป็นจริงของสัตว์โลกแล้ว ที่เกิดมา วนเวียนกันไปใน

สังสารวัฏฏ์ นำมาซึ่งทุกข์ประการต่างๆ นั้น แม้แต่ พญายม ท่านก็เกิดความคิดในใจ

ที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ พบพระพุทธเจ้าและได้ฟังธรรม และรู้ธรรมตามที่พระพุทธเจ้า

ทรงแสดง นี่เห็นถึงคุณค่าของการได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระธรรม และ ได้ฟัง

ศึกษา อันเป็นเหตุให้เกิดปัญญา จึงควรเห็นค่าของชีวิตนี้ ที่เหลือน้อย ควรแล้วที่

จะใส่ใจ อบรมปัญญา ศึกษาพระธรรม เพื่อประโยชน์ในการละกิเลสที่จะเป็นเหตุ

ไม่ต้องทุกข์ ไม่เกิดอีก ครับ

เรื่องความคิดของพญายม

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 151

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีแล้ว ความปริวิตกนี้ได้มีแก่พญายมว่า ได้ยินว่า

ชนเหล่าใดทำกรรมทั้งหลายที่เป็นบาปในโลก ชนเหล่านั้นย่อมถูกทำกรรมกรต่างๆ

เช่นอย่างนี้ เจ้าประคุณ ขอให้ข้า ฯ ได้เป็นมนุษย์เถิด กับขอพระตถาคตอรหันตสัมมา

สัมพุทธเจ้า พึงบังเกิดในโลก ขอให้ข้า ฯได้เข้าใกล้พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ขอพระผู้มี

พระภาคเจ้านั้นพึงทรงแสดงธรรมและขอให้ข้า ฯ พึงรู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาค

เจ้านั้นเถิด

ขออนุโมทนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-พยายม คือผู้ที่คอยเตือนผู้ที่ทำอกุศลกรรมไม่หนักมากให้นึกถึงคุณความดีที่ตนเอง

ได้กระทำในขณะที่เป็นมนุษย์

-กุศล ซึ่งเป็นความดีในชีวิตประจำวันสามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งในเรื่องของทาน ศีล

และการอบรมเจริญปัญญาขึ้นอยู่กับว่า ผู้นั้นจะเห็นประโยชน์ของกุศลมากน้อยแค่ไหน

การอุทิศส่วนกุศล ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย จุดประสงค์ของการอุทิศส่วนกุศล ก็เพื่อให้

บุคคลอื่นได้ร่วมอนุโมทนาซึ่งจะเป็นเหตุให้กุศลจิตของบุคคลอื่นเกิดได้ กุศลจิตที่

อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเอง ซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้

จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือกุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้

คนอื่น แต่การที่เราทำกุศล แล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนายินดีด้วย ไม่ว่าจะเป็น

ตอนไหนก็ตาม ขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วย ขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขา

ซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริงๆ ดังนั้นทั้งการอุทิศส่วนกุศล และ

การอนุโมทนาในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำ ล้วนเป็นกุศลทั้งนั้น ควรที่จะอบรมเจริญให้มี

ขึ้นในชีวิตประจำวัน

กุศลธรรมทุกประเภท ความดีทุกประการ ไม่ใช่เฉพาะการอุทิศส่วนกุศลเท่านั้น

ยังมีกุศลในส่วนที่เป็นการให้ทาน การรักษาศีล การฟังพระธรรม เป็นต้น เมื่อน้อม

ประพฤติปฏิบัติตามได้จริงๆ แล้ว จะไม่เป็นภัยใดๆ เลย ไม่เป็นภัยทั้งแก่ตนและแก่

ผู้อื่น มีแต่จะนำมาซึ่งประโยชน์สุขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าจะพิจารณาในนัยตรงกัน

ข้ามจะเห็นได้ว่า ถ้าเป็นอกุศลแล้ว ไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย ที่จะเป็นประโยชน์

ก็เฉพาะสภาพธรรมฝ่ายดี เท่านั้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

อุทิศกุศลให้เทวดา อมนุษย์ เปรต หรือ พยายม ถ้าเขารู้ เขาก็สามารถ

อนุโมทนาได้ ค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขออนุโมทนาครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอขอบพระคุณทุกท่าน และขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยครับ....

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนา

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

สาธุ ขออนุโมทนา ฯ

สาธุ สาธุ สาธุ ครับ