กรรมอย่างหนึ่งอย่างใดที่ได้กระทำสำเร็จลงไปแล้วย่อมต้องเกิดผลเป็นวิบากอย่างแน่นอนหรือไม่บาปโทษจากอกุศลกรรมลบล้างไม่ได้ แต่สามารถทำให้ลดทอนลงได้ใช่หรือไม่ครับ
อกุศลกรรมลบล้างไม่ได้ และลดทอนไม่ได้เช่นกัน แต่ผู้ที่ทำกุศลกรรมไว้มาก เมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผล ย่อมเป็นทุกข์เดือดร้อนน้อยกว่า เปรียบเหมือนเศรษฐีกับยาจก มนุษย์กับสัตว์เดรัจฉาน
อ่านแล้วไม่เข้าใจ ทำไมตอบแล้วเหมือนไม่ได้ตอบแทบทุกครั้งที่ถาม พยายามอ่านคำถามดีๆ ที่กล่าวอย่างนี้หมายถึงทีมงานนะครับ
ขอแสดงความเห็น ..
กรรมอย่างหนึ่งอย่างใดที่ได้กระทำสำเร็จลงไปแล้วย่อมต้องเกิดผลเป็นวิบากอย่างแน่นอนหรือไม่ไม่มีผู้ได้ตอบได้นะครับ นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่สามารถเข้าใจเรื่องของ กรรม และวิบากได้นะครับ
บาปโทษจากอกุศลกรรมลบล้างไม่ได้แต่สามารถทำให้ลดทอนลงได้ใช่หรือไม่ครับ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใดนะครับ กรรมดีย่อมให้วิบากที่ดี กรรมชั่วย่อมให้วิบากที่ไม่ดี ดังนั้นควรเจริญกุศลทุกประการนะ
ครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ... ว่าด้วยอจินไตย ๔ [อจินติตสูตร]
กรรมอย่างหนึ่งอย่างใดที่ได้กระทำสำเร็จลงไปแล้ว ย่อมต้องเกิดผลเป็นวิบากเมื่อมีโอกาสแต่เมื่อไม่มีโอกาส ย่อมเป็นอโหสิกรรม เช่น พระองคุลิมานเถระ เมื่อท่านดับขันธปรินิพพาน แล้วอกุศลกรรม คือ การฆ่าคนในชาตินี้ย่อมไม่เกิดผลวิบากอีกต่อไป บาปโทษจากอกุศลกรรมลบล้างไม่ได้ แต่เพราะอาศัยปโยคสมบัติ เป็นต้น ทำให้อกุศลกรรมไม่ให้ผล หรือให้ผลไม่เต็มที่ก็ได้
กรรมอย่างหนึ่งอย่างใดที่ได้กระทำสำเร็จลงไปแล้ว ย่อมต้องเกิดผลเป็นวิบากอย่างแน่นอน แต่จะให้ผลเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายอย่าง เช่น คติสมบัติสำหรับผู้ที่เกิดในเทวโลก ย่อมเสวยสุขอยู่ในสวรรค์ได้รับแต่กุศลวิบาก อกุศลกรรมจึงยังให้ผลไม่ได้ ตราบใดที่คติสมบัติห้ามไว้ ยามใดที่จุติจากเทวโลก อกุศลกรรมนั้นย่อมให้ผลตามควรแก่เหตุ พระอรหันต์ที่ท่านดับขันธปรินิพพานแล้วเท่านั้น ที่กรรมตามไปให้ผลไม่ได้ เพราะจิต เจตสิก รูป ดับสิ้นไม่มีเหลือ แล้วจะตามไปเอาผิดกับใครที่ไหนเล่า?
ขอขอบคุณครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ