อยากทราบว่าการทำบุญ ทำไมต้องอุทิศส่วนกุศล ให้ผู้อื่น ทั้งที่ผู้นั้นมีจิตใจต่ำทราม ทำแต่อกุศล แล้วบุญที่เราทำเขาจะได้รับหรือ ดูแล้วไม่ยุติธรรมเลย คนไม่ทำบุญแต่ได้รับบุญ ดูแปลกๆ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เกื้อกูลอุปการะเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่อกุศลธรรม, กุศล ซึ่งเป็นความดีในชีวิตประจำวันสามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งในเรื่องของทาน ศีล และการอบรมเจริญปัญญาขึ้นอยู่กับว่า ผู้นั้นจะเห็นประโยชน์ของกุศลมากน้อยแค่ไหน การอุทิศส่วนกุศล ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย จุดประสงค์ของการอุทิศส่วนกุศล ก็เพื่อให้บุคคลอื่นได้ร่วมอนุโมทนาซึ่งจะเป็นเหตุให้กุศลจิตของบุคคลอื่นเกิดได้ กุศลจิตที่อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเอง ซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือกุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้คนอื่น แต่การที่เราทำกุศล แล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนายินดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนก็ตาม ขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วย ขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขา ซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริงๆ ดังนั้น ทั้งการอุทิศส่วนกุศล และการอนุโมทนาในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำ ล้วนเป็นกุศลทั้งนั้น ควรที่จะอบรมเจริญให้มีขึ้นในชีวิตประจำวัน
การอุทิศส่วนกุศล (ปัตติทาน) เป็นกุศลประการหนึ่ง เพื่อประโยชน์คือให้บุคคลอื่นได้ร่วมอนุโมทนา ซึ่งจะเป็นเหตุให้กุศลจิตของบุคคลอื่นเกิดได้ ดังข้อความตอนหนึ่ง จากพระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณีปกรณ์ ว่า
พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้า ๔๒๙
"เมื่อบุคคลให้ทาน กระทำการบูชาด้วยของหอมเป็นต้น แล้วให้ส่วนบุญว่า ขอส่วนบุญ จงมีแก่บุคคลชื่อโน้น หรือว่า ขอส่วนบุญจงมีแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดังนี้ พึงทราบว่า เป็นบุญกิริยาวัตถุอันเกิดแต่การให้ส่วนบุญ".
-----------------------------------------------------
การอุทิศส่วนกุศลนั้นก็เผื่อเป็นโอกาสของญาติทั้งหลายที่มีมากมาย ด้วยจิตหวังประโยชน์ให้คนอื่น ด้วยจิตเมตตา ที่บุคคลใด บุคคลหนึ่งจะได้รับรู้และเกิดจิตกุศล เมตตา โดยไม่เฉพาะเจาะจง ผู้มีจิตเมตตาย่อมไม่แยกว่าคนนี้ดี ไม่ดี แต่ด้วยเจตนาหวังดี เพราะทุกคนก็รักสุข เกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ครับ
การอุทิศส่วนกุศลให้ใคร จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้นั้นได้รู้ เพื่อผู้นั้นจะได้เกิดกุศลจิตอนุโมทนา สำคัญอยู่ที่สภาพจิตจริงๆ กุศลจิตที่อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเอง ซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือ กุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้คนอื่น แต่การที่เราทำกุศล แล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนายินดีด้วย ขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วย ขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขา ซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริงๆ ซึ่งไม่ว่ากุศลประเภทใดที่ได้ทำแล้ว ก็สามารถอุทิศส่วนกุศลให้ได้ ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความดี ทั้งหมดควรค่าแก่การอนุโมทนา ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องหนึ่งเรื่องใดโดยเฉพาะ ความดีเป็นความดี เป็นสภาพธรรมที่ไม่นำมาซึ่งโทษใดๆ เลย และผู้ที่เห็นคุณของความดีเท่านั้น ที่จะชื่นชมในความดี ขณะที่ชื่นมชมยินดีในความดีของผู้อื่นเป็น ความดีของผู้ที่ชื่นชมยินดี เมื่อเหตุมีแล้ว ผลก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นไปตามควรแก่เหตุ ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุครับ..
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
การอุทิศส่วนกุศลเป็นบุญอย่างหนึ่งในบุญ ๑๐ อย่าง การที่คนอื่นจะได้รับส่วนกุศลหรือไม่ก็อยู่ที่ภพภูมิที่เขาไปเกิด แต่ที่สำคัญกุศลอยู่ที่เจตนาของผู้อุทิศให้และผู้รับยินดีในกุศลที่เขาทำค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ