การอยากได้ผลจะเป็นกุศลไม่ได้เลย นี่เป็นเหตุที่โลภะทำให้สังสารวัฏฏ์เป็นไปถ้าปราศจากโลภะ สังสารวัฏฏ์ย่อมหยุด ไม่สามารถเป็นไปต่อไปได้ เพราะฉะนั้นแม้แต่สวดมนต์ ซึ่งเป็นกุศล ก็ยังอดมีความหวัง ความต้องการผลเกิดขึ้นแทรกไม่ได้ แล้วสังสารวัฏฏ์จะหมดได้อย่างไร เวลาสวดนี้ไม่ได้ระลึกถึงพระพุทธคุณ เพราะว่าการสวดมนต์จริงๆ แล้ว กุศลจิตในขณะนั้นคือ ขณะที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ จึงเป็นกุศลนี่คือหลัก ขณะใดที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะจึงเป็นกุศล
เพราะฉะนั้น สติสัมปชัญญะก็ควรจะเกิดขึ้นพิจารณาว่า ขณะใดเป็นโลภะที่เกิดขึ้นแทรก ขณะนั้นไม่ใช่กุศล บางท่านสวดต้องเลือกบทสวด เพราะเหตุว่าบทสวดนี้จะทำให้เกิดผลต่างๆ ซึ่งเป็นที่ต้องการ รูป เสียง กลิ่น รส ทรัพย์สิน เงินทอง ลาภยศขณะนั้นเป็นอะไร ที่กำลังต้องการลาภยศ ขณะนั้นก็เป็นโลภะ ไม่ใช่เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ ซึ่งขณะนั้นเป็นกุศลเพราะปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ
เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด
ศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพและเห็นคุณค่าของพระธรรม ความเข้าใจในความจริงที่ทรงแสดง จึงตรงขึ้นในสภาพธรรมที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย แสดงถึงความไม่ใช่เรา
ปัญญาเท่านั้นที่เข้าใจโลภะ ตามความเป็นจริง
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ