ได้อ่านเจอมาคะ ทำบุญล้างบาปไม่ได้ แต่ทราบมาว่าทำบุญหนีบาปได้ ทางเดี่ยวที่จะหนีบาปพ้นได้คือ
1.การคิดถึงคุณพระรัตนตรัยคือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระอริยสงฆคุณ
2.ทรงศีล 5 ให้บริสุทธิ์
3.มีพรหมวิหาร 4 ให้ครบถ้วน
4.มีอิทธิบาท 4 ทรงตัว
5.มีการภาวนาให้จิตทรงตัว
6.พยายามรวบรวม บารมี 10 ประการให้มีในจิตให้ครบถ้วน
7. พยายามตัด สังโยชน์ 10 ประการให้หมด
8.จรณะ 15 ปฎิบัติให้ครบถ้วน
เมื่อมีการทรงตัวดังกล่าวมาทั้ง 8 ข้อ ได้ทั้งหมด เป็นอันว่าไม่ต้องเกิดอีกต่อไปนั่นคือ ตายเมื่อใดก็ไปนิพพานอันเป็นแดนที่มีความสุขที่สุด.
อ่านแล้วไม่เข้าใจค่ะ ความหมายของแต่ละข้อไม่เคยรู้ และอยากรู้ ค่ะ รบกวนครูบาอาจารย์ เมตตาให้ความรู้เรื่องนี้ด้วยคะ อยากได้ อยากดีค่ะเมตตาด้วยค่ะ _/_
ขอเรียนว่าทั้ง ๘ ข้อที่ท่านพูดถึงนั้นเป็นหัวข้อใหญ่และสำคัญ ถ้าขาดปัญญาแล้ว
พรหมวิหาร อิทธิบาท บารมี จรณะ เป็นต้นจะมีไม่ได้ ก่อนอื่นควรศึกษาพระธรรม
ให้เข้าใจก่อนจะดีกว่าครับขอเชิญคลิกอ่าน ..
อิทธิบาท ๔
พรหมวิหาร ๔
บารมี
ความหมายของ จรณะ
ลองนึกถึงพระโมคคัลลานะ ที่ท่านเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์ มีคุณสมบัติยิ่งกว่า
8 ข้อที่ท่านยกมาเสียอีก อกุศลกรรมที่ท่านทุบตีพ่อแม่ในอดีตชาติตามมาทัน ท่านยังไม่
หนีเลยครับ เพราะหนียังไงก็ไม่พ้น ส่วนพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่มีบารมียิ่งกว่าพระโมคคัล-
ลานะ ท่านก็ยังต้องโดนใส่ร้าย อาพาธหนักและหิวน้ำ เพราะเคยกระทำอกุศลกรรมไว้
ในชาติปางก่อนซึ่งนานมากแต่ก็ยังตามมาทัน แม้บารมีสูงสุดระดับพระพุทธเจ้า ในบั้น-
ปลายก่อนจะดับขันธปรินิพพานก็ยังต้องรับผลของกรรมเลยครับ ยิ่งข้อบารมี 10 จะเกิด
ขึ้นรวดเร็วในชาติเดียวไม่ได้ ต้องเป็นการบำเพ็ญเป็นเวลานาน
เพราะกว่าจะล้างกิเลสที่เน่าในได้เป็นเรื่องยากมาก ไม่ใช่ภายในชาติเดียวสำหรับ
บุคคลในยุคกาลวิบัตินี้ เพราะสะสมกิเลสมานานในสังสารวัฏฏ์ จนหาจุดเริ่มต้นของการ
สะสมอกุศลและอกุศลกรรมไม่ได้ (หนาแน่นประมาณไม่ได้) ถ้าสะสมอกุศลโดยไม่รู้ว่า
ขณะนั้นเป็นอกุศล (เช่นคิดว่ากำลังเจริญเมตตาพรหมวิหารแต่จริงๆ เป็นโลภะ) และ
กระทำอกุศลกรรมอีกเรื่อยๆ (กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม) ก็ยิ่งยืดสังสารวัฏฏ์ออกไป
อีก จึงไม่ไวและไม่มีหลายทาง เพราะมีทางเดียวที่จะดับกิเลสจนถึงขั้นพ้นอบายภูมิได้
ก็คือการเจริญสติปัฏฐาน อบรมเจริญปัญญา
ขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เข้าใจว่าคุณ Kanjana.Bอยากทราบว่า..
ทำบุญเพื่อหนีผลของอกุศลกรรมใช่หรือไม่..เพราะบุญและบาปเป็นเหตุให้เกิดผลของกรรมบุญหมายถึงกุศลจิตเป็นเหตุให้เกิดผลของกุศลกรรม. (ไม่มีใครอยากหนี..) .บาปหมายถึงอกุศลจิตเป็นเหตุให้เกิดผลของอกุศลกรรม
เชิญคลิกอ่าน..
บาป บุญ มีจริงๆ หรือ จะเชื่อได้อย่างไร?
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ความคิดเห็นและโดยส่วนตัวนะค่ะแค่จะระลึกรู้ว่าเป็นกุศลหรืออกุศลในแต่ละวัน
ยังระลึกไม่ได้ตลอดทั้งวันเลย (เผลอสติตลอด) อย่าว่าแต่ 8 ข้อเลยค่ะ
จะหนีไปไหนครับ