* พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว เป็นมรดกที่มีค่าสูงสุดสำหรับชาวพุทธ ไม่มีสิ่งใดจะเปรียบได้เลย
* มรดกอื่นใดมีทรัพย์สินเงินทองต่างๆ เป็นต้น ที่บิดามารดามอบให้บุตร ก็มีประโยชน์เพียงเพื่อจะใช้ในชาตินี้เท่านั้น หรืออาจสูญหาย ทำลายไปก็ได้ แต่มรดกคือพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานไว้ให้พุทธบริษัทนั้น ย่อมเป็นประโยชน์ทั้งในชาตินี้ ชาติต่อๆ ไป และเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ที่จะทำให้ถึงการรู้แจ้งความจริง จนถึงการดับกิเลสได้หมดสิ้น
* ดังนั้น มรดกอันล้ำค่าก็คือพระธรรม ที่ทำให้เกิดปัญญาเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง แต่การจะเป็นผู้รับมรดกคือพระธรรมได้นั้น ก็ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดและตรงในการฟังและไตร่ตรองตามคำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม เพื่อเป็นที่อาศัยให้พุทธบริษัทได้ศึกษา อบรมสะสมอุปนิสัยในความเข้าใจธรรมถูกต้องว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้กุศลเกิดอารักขาจิตเพิ่มขึ้นๆ ในชีวิตประจำวัน
* เมื่อมีความเข้าใจในความเป็นธรรมที่ได้ฟังจนมั่นคง สติและปัญญาอีกระดับหนึ่ง ก็จะเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง โดยไม่ใช่ความเข้าใจขั้นฟัง ขั้นไตร่ตรองเท่านั้น
* การค่อยๆ รับมรดกธรรมคือปัญญา จึงเริ่มตั้งแต่ความเข้าใจในขั้นการฟัง การไตร่ตรองถูกต้องตรงตามพระธรรม การระลึกรู้ตรงลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จนกว่าจะถึงการประจักษ์แจ้งความจริงของสิ่งที่มีจริง คือการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม เป็นพระอริยสาวก จึงจะเป็นผู้รับมรดกธรรมอย่างแท้จริง
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
เมื่อมีความเข้าใจในความเป็นธรรมที่ได้ฟังจนมั่นคง สติและปัญญาอีกระดับหนึ่ง ก็จะเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง โดยไม่ใช่ความเข้าใจขั้นฟัง ขั้นไตร่ตรองเท่านั้น
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ