มุ่งสันติเถิด
โดย pirmsombat  14 ธ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 5857

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 44


อุปเนยยสูตร

[๗] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า


ชีวิตคืออายุมีประมาณน้อย ถูกต้อนเข้าไปเรื่อย เมื่อบุคคลถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีผู้ป้องกัน บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงทำบุญทั้งหลายที่นำความสุขมาให้.


[๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า


ชีวิตคืออายุมีประมาณน้อย ถูกต้อนเข้าไปเรื่อย เมื่อบุคคลถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีผู้ป้องกัน บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงละอามิสในโลกเสีย มุ่งสันติเถิด.................................................
ทุกคน
ถูกชราต้อนไปสู่มรณะกันทุกขณะ ไม่มีอะไรจะป้องกันได้บุคคลเมื่อเห็นภัยในมรณะ ควรละอามิสในโลกเสียมุ่งสันติคือพระนิพพานดีกว่าคือ การศึกษาและปฏิบัติธรรม อบรมเจริญสติปัฏฐานเพื่อถึงซึ่งความพ้นทุกข์ ถึงซึ่งความสุขสงบอย่างแท้จริง จะถึงซึ่งพระนิพพานเมื่อใดก็แล้วแต่เหตุปัจจัย ครับ



ความคิดเห็น 2    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 14 ธ.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

จากพระสูตรนี้คือ อุปเนยยสูตร เทวดาที่กล่าวเป็น พรหม พรหมนั้นมีอายุยืนมาก เป็น

กัป ดังนั้นเมื่อพรหม เห็นสัตว์ชั้นต่ำกว่า เช่นมนุษย์หรือเทวดา (สวรรค์) ที่มีอายุน้อย

เกิดแล้วตายเร็วมากเพราะเทียบกับอายุตน จึงกล่าวว่าอายุมีประมาณน้อย ควรทำบุญ

แต่บุญในที่นี้พรหม ประสงค์หมายถึง บุญที่เป็นขั้นฌานเพื่อให้เกิดในพรหมโลก ซึ่งก็

ยังจะต้องวนเวียนในวัฏฏะ ดับกิเลสไม่ได้ พระพุทธจึงตรัสว่าควรมุ่งสันติคือพระนิพพานเพราะดับกิเลสได้นั่นเอง แสดงให้เห็นว่า

สมถภาวนาไม่สามารถดับกิเลสได้ แต่การอบรมเจริญสติปัฏฐาน (วิปัสสนา) คือระลึก

ลักษณะของสภาพธัมมะที่มีจริงในขณะนี้ ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา เป็นหนทางเดียวที่ดับกิเลสได้ครับ ย่อมนำไปสู่สันติคือพระนิพพาน ขออนุโมทนาครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 3    โดย wirat.k  วันที่ 15 ธ.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 4    โดย medulla  วันที่ 15 ธ.ค. 2550
ขอบพระคุณมากค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 5    โดย devout  วันที่ 15 ธ.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 15 ธ.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ