หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๕๖๕]
จริงใจที่จะเป็นคนดีและขัดเกลากิเลส
ชีวิตของแต่ละท่านที่ดำรงอยู่และดำเนินไปในวันหนึ่งๆ นั้นคือ ศีล เพราะเหตุว่าศีล คือ การกระทำทางกาย ทางวาจา ซึ่งมีทั้งอกุศลศีล กุศลศีล และอัพยากตศีล ถ้ากายวาจาเป็นไปทางฝ่ายอกุศล ปกติก็เป็นอกุศลศีล ขณะใดที่กายวาจาเป็นไปทางฝ่ายกุศล เป็นปกติเหมือนกัน ก็เป็นกุศลศีล สำหรับอัพยากตศีล (ไม่ใช่กุศลและอกุศล) นั้นก็สำหรับผู้ที่ดับกิเลสหมด
เพราะฉะนั้นเรื่องศีล ซึ่งเป็นเรื่องของการกระทำทางกายทางวาจา ย่อมเป็นการวัดกำลังของกิเลส ปกติทุกคนมีโลภะ มีโทสะมีความขุ่นเคืองใจ มีโมหะ แต่ถ้าล่วงศีลเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็แสดงให้เห็นกำลังของอกุศลว่ามีมาก ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรมทั้งหมด เพื่อที่จะให้พุทธบริษัทมีความประพฤติดี ให้กุศลจิตเกิดทุกระดับตั้งแต่ขั้นต้นในชีวิตประจำวัน จนกว่าจะถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม แต่ถ้าบางท่านละเลยการที่จะขัดเกลาอกุศลในเบื้องต้น มุ่งหน้าที่จะไปสู่การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมอย่างเดียว ย่อมเป็นผู้ที่ประมาท เพราะเหตุว่าถ้าในขั้นต้นเบื้องต้นยังเป็นคนดีไม่ได้ แล้วจะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้อย่างไร
และสำหรับการเป็นคนดี ทุกท่านที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคลยังดีไม่พอ เพราะเหตุว่าความดีของท่านนั้นยังเสื่อมได้ ยังสามารถจะล่วงศีลเมื่อพร้อมด้วยเหตุปัจจัย แต่ว่าสำหรับผู้เป็นพระอริยบุคคลนั้น ความหมายของอริยะ คือ เป็นผู้ไม่เสื่อม เพราะฉะนั้นก็ได้อบรมเจริญคุณความดีจนถึงระดับขั้นที่ไม่เสื่อม ไม่ทำให้เกิดในอบายภูมิ ซึ่งการที่จะอบรมเจริญกุศลจนกระทั่งรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ก็จะต้องอาศัยสัจจะความจริงใจในการที่จะเป็นผู้ที่ประพฤติดี เป็นคนดีและขัดเกลากิเลส โดยที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน นอกจากการที่จะรู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริง
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และยินดีในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ค่ะ